ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก "พนม" 20 ปีปม "เงินทอนวัด" พร้อมสั่งคืนเงิน 12 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. จากกรณีที่ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด} นายชรินทร์ มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมฐานทุจริตเงินบำรุงวัด กระทั่งศาลแผนกคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษาคดีที่อัยการสั่งฟ้อง นายพนม พร้อมพวก เป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเบียดบังเอาเงินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณที่มีการเบียดบังไปจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 12,000,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 4 ให้ร่วมใช้เงินกับจำเลยที่ 1-3 จำนวน 3 ล้านบาท
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาว่า เมื่อพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 4 กับพวกเป็นผู้ร่วมคบคิดกันการกระทำความผิด เพราะได้กระทำการดังกล่าวเป็นเครือข่ายระหว่างข้าราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับบุคคลภายนอกในลักษณะกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือหรือให้ได้รับความสะดวกในการกระทำความผิดและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน อีกทั้งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันของจำเลยทั้ง 4 กับพวก เป็นเครือข่ายและขบวนการในการกระทำความผิดเบียดบังยักยอกเงินเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯ เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และออกหมายจำคุกต่อไป