ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พนม"20 ปีปม"เงินทอนวัด"

2020-11-20 18:55:37

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พนม"20 ปีปม"เงินทอนวัด"

Advertisement

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก "พนม" 20 ปีปม "เงินทอนวัด" พร้อมสั่งคืนเงิน 12 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 20 พ.ย. จากกรณีที่ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด} นายชรินทร์ มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมฐานทุจริตเงินบำรุงวัด กระทั่งศาลแผนกคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษาคดีที่อัยการสั่งฟ้อง นายพนม พร้อมพวก เป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเบียดบังเอาเงินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณที่มีการเบียดบังไปจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 12,000,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 4 ให้ร่วมใช้เงินกับจำเลยที่ 1-3 จำนวน 3 ล้านบาท


ล่าสุด ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาว่า เมื่อพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 4 กับพวกเป็นผู้ร่วมคบคิดกันการกระทำความผิด เพราะได้กระทำการดังกล่าวเป็นเครือข่ายระหว่างข้าราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับบุคคลภายนอกในลักษณะกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือหรือให้ได้รับความสะดวกในการกระทำความผิดและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน อีกทั้งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันของจำเลยทั้ง 4 กับพวก เป็นเครือข่ายและขบวนการในการกระทำความผิดเบียดบังยักยอกเงินเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯ เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และออกหมายจำคุกต่อไป