จ่อออกหมายเรียก"31 คณะราษฎร"ป่วนสภาฯ-สตช.

2020-11-20 14:10:22

จ่อออกหมายเรียก"31 คณะราษฎร"ป่วนสภาฯ-สตช.

Advertisement

ตร.จ่อออกหมายเรียก "31 คณะราษฎร" ชุมนุมป่วน "สภาฯ-สตช." ยันยังไม่ใช้ ก.ม. มาตรา 112


เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มคณะราษฎรที่ไปชุมนุมกันหน้ารัฐสภา ถนนเกียกกาย และที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 ซึ่งเกิดความเสียหายและความรุนแรงขึ้นทั้ง 2 จุด ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้ง 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เพื่อพิสูจน์ทราบถึงตัวบุคคลที่กระทำความผิดทั้ง 2 จุด เบื้องต้นสามารถระบุตัวบุคคลได้แล้ว 31 คน แบ่งเป็นพื้นที่ สน.บางโพ จากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา 14 คน พื้นที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งมีการชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิสูจน์ทราบแล้ว 17 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่กระทำความผิดจากการก่อความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายความผิดในหลายข้อหา อาทิ ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม, กฎหมายอาญาข้อหาสมคบกัน 10 คนเพื่อก่อความวุ่นวาย, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายสาหัส, พยายามฆ่า, ความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด, และ พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์ หน้าพนักงานสอบสวนจะเริ่มดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมาย


รอง ผบช.น. ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมปะทะกันที่บริเวณหน้ารัฐสภา ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าให้ปากคำแล้ว 3 คน แบ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่แยกบางโพ 1 คน และแยกเกียกกาย 2 คน ซึ่งมีทั้งผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร์ และผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบัน ส่วนลักษณะการก่อเหตุจะเป็นการจงใจก่อเหตุเพื่อหวังเอาชีวิต หรือเป็นการปกป้องคุ้มกันกลุ่มหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเจาะจงประเด็นและแรงจูงใจต่างๆ ได้ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบแนววิถีกระสุนและพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนการจับกุมผู้ต้องหาที่มาจากกลุ่มปกป้องสถาบัน ซึ่งพกพาอาวุธปืนเข้าร่วมชุมนุมนั้น ขณะนี้ได้นำอาวุธปืนไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาเอกลักษณ์เฉพาะของเกลียวกระบอกปืนและเข็มแทงชนวนแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหัวกระสุน และบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้


พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนเลวในวันพรุ่งนี้ จากการตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการแจ้งขอชุมนุม หากวันนี้ก่อนบ่าย 2 โมงยังไม่แจ้งขอชุมนุม ก็จะถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ส่วนการเตรียมกำลังดูแลการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมเพื่อจัดเตรียมกำลังและวางแนวทางการป้องกันอีกครั้ง เบื้องต้นจะมีการเพิ่มกำลังของเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนที่เป็นตำรวจหญิงมากขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนและเยาวชน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงกับผู้ชุมนุม นอกจากนี้จะมีผู้พิพากษาสมทบของศาลเยาวชน เจ้าหน้าที่สงเคราะห์เด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนไปร่วมสังเกตการณ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


รอง ผบช.น. ระบุเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระแสข่าวกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร์และกลุ่มนักเรียนเลว จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มตามในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทางตำรวจยืนยันว่าขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 112 เนื่องจากต้องรอการพิจารณากำหนดขอบเขตการแจ้งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีอย่างชัดเจนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในวันจันทร์นี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อขอบเขตให้ชัดเจน ก่อนที่จะดำเนินการบังคับใช้ สำหรับกรณีสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลวโพสต์ภาพหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 พ.ย.นั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเรียกไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 แต่เป็นการเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 แต่อย่างใด