"แกนนำ นปช." ขึ้นสืบพยานคดีชุมนุมขับไล่ "อภิสิทธิ์" ฐานยุยงปลุกปั่น-ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ชุมนุมขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งแรกเมื่อปี 2552 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนนำ นปช.กับพวกรวม 13 คน ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, และเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการตามมาตรา 215, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ศาลได้เบิกตัวนายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา คดีชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ปี 2550 มาศาล โดย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีต รอง ผบช.น. จะขึ้นเบิกความเป็นปากเเรกในฐานะพยานโจทก์
สำหรับคดีดังผู้ต้องหาในคดีกล่าว ยังมี นายสิระ พิมพ์กลาง ตกเป็นจำเลยที่ 5, นายณรงศักดิ์ มณี เป็นจำเลยที่ 6, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท เป็นจำเลยที่ 7, นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ เป็นจำเลยที่ 8, นายพายัพ ปั้นเกตุ เป็นจำเลยที่ 9, นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง เป็นจำเลยที่ 10, นายอดิศร เพียงเกษ เป็นจำเลยที่ 11, นายพีระ พริ้งกลาง เป็นจำเลยที่ 12 แต่เสียชีวิตแล้ว ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดี และนายเมธี อมรวุฒิกุล เป็นจำเลยที่ 13