"รังสิมันต์"ชี้ถ้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ผ่านเปรียบเอาฟืนออกจากกองเพลิง
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์หรือร่างฉบับประชาชน ยากจะผ่านความเห็นชอบ ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะโน้มน้าวผ่านการอภิปรายเช้านี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีผู้อภิปรายรออยู่ 3 คน เพื่อใช้ 30 นาทีให้มีประโยชน์ เพื่อให้รัฐสภาเห็นความสำคัญ ยอมรับว่าร่างไอลอว์มีข้อถกเถียงหลายอย่างของสมาชิกรัฐสภา แต่ขอยืนยันว่าการับร่างฉบับประชาชน คือเอาฟืนออกจากกองเพลิง ถ้าอยากให้สถานการณ์บ้านเมืองดีกว่านี้ จำเป็นต้องรับร่างไอลอว์ จากนั้นเป็นกระบวนการของรัฐสภาในการดำเนินการให้เกิดความเหมาะสม
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่า ส่วนตัวได้เดินทางไปหน้ารัฐสภา และพยายามเจรจากับตำรวจเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยประสานงานกับตำรวจเรื่องการกำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม 50 เมตร มีวัตถุประสงค์อย่างไร หากกังวลผู้ชุมนุมจะบุกเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา ก็ได้ชี้แจงกับตำรวจว่า ที่ผ่านมา ผู้ชุมคุมไม่เคยมีประวัติบุกรุกสถานที่ราชการ เช่น ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ที่เคยมาชุมนุมก่อนหน้านี้ ไม่มีประวัติก่อความรุนแรงและความวุ่นวาย จึงขอให้ปฏิบัติด้วยความสมเหตุสมผล แต่มีการฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตา แม้แต่ตนเองก็ไม่สามารถเจรจาได้ ทำให้เกิดความไม่พอใจจากผู้ชุมนุม
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า มองว่าเป็นธรรมชาติของการชุมนุมทางการเมืองในการเข้าพื้นที่เป้าหมาย ผ่านแนวกีดขวางเข้ามา จึงมีการตัดรั้วลวดหนาม ตนเชื่อว่าผู้ชุมนุมต้องการมาติดตามและเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภารับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน นอกจากนี้จากการติดตามการปฏิบัติงานของตำรวจเป็นการปกป้องสถานที่มากกว่าผู้ชุมนุม เช่น กรณีการปะทะระหว่างกลุ่มราษฎรและกลุ่มเสื้อเหลือง ที่ไม่มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่ปล่อยให้เกิดความรุนแรง ส่วนกรณีที่ตนโพสต์ภาพตรวจสอบพบยาไอซ์ในรถตู้ตำรวจ ในพื้นที่การชุมนุมนั้น เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ และเป็นคำถามว่าจะปล่อยผ่านหรือ ตำรวจจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อเป็นของตำรวจ