"อนุทิน" ปลุกคนไทยสวมหน้ากากอนามัย เผยจากที่เคยเคร่งครัดปฏิบัติตามถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันลดเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ Lifestyle Hall ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน "ยกระดับมาตรการสวมหน้ากากป้องกันโรคไวรัสโคโรนา 2019" พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับองค์กรที่มีการดำเนินการตามมาตรการสวมหน้ากากป้องกัน มีผู้บริหารจากระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประเทศไทยรอดพ้นการระบาดใหญ่มาได้ เพราะประชนคนไทยพร้อมใจกันสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง แต่ปัจจุบัน พฤติกรรมดังกล่าว กลับมีผู้ปฏิบัติน้อยลง จากที่เคยเคร่งครัดปฏิบัติตามถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันลดเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ทั่วโลกยังมีการระบาด จึงจำเป็นต้องรณรงค์กันอีกครั้ง คนไทยต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดหาวัคซีน นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้วัคซีน ซึ่งทางการได้ขอทำสัญญา และเข้าร่วมกับทีมวิจัยหลายต่อหลายทีมแล้ว โดยเฉพาะทีมของแอสตราเซนเนกา ที่ไทยพัฒนาวัคซีนร่วมกัน จะทำให้เราซื้อวัคซีนในราคาที่ถูกลง เบื้องต้นมีแผนจัดหาไว้ที่ 23 ล้านโดส และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าต่างๆ ไทยสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต
"เรื่องลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ทางทีมแพทย์ ทีม ศบค.ชุดเล็ก ให้ข้อมูลว่ามีวิธีการ และอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ กำลังนำส่ง ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา ทั้งนี้ การลดเหลือ 10 วัน ไม่ใช่ว่าอีก 4 วัน ที่ลดลง จะไม่ทำอะไรเลย เพราะในความเป็นจริง ใน 4 วันนั้น ก็ต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาทดแทน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด"นายอนุทิน กล่าว