สหรัฐฯชมไทยคุมสารตั้งต้น ยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด

2020-11-17 16:20:00

สหรัฐฯชมไทยคุมสารตั้งต้น ยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด

Advertisement

รมว.ยุติธรรมหารือทูตสหรัฐฯปราบยาเสพติด ชม ป.ป.ส.คุมสารตั้งต้น ยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด 

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงความร่วมมือต่างๆที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม ทั้งปัญหาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การฟอกเงิน อาชญากรรม ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศมีความร่วมมือกันอย่างดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทางนายไมเคิล ได้ชื่นชมการทำงานของ ป.ป.ส.ในการตั้งหน่วยงานเพื่อควบคุมสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ ซึ่งตนได้อธิบายว่า นี่เป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศในลุ่มน้ำโขง ที่ประกอบไปด้วย ไทย จีน เมียนมา ลาว เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งทางสหรัฐฯได้ชื่นชมว่าเป็นเรื่องที่ดีในการรวมกลุ่มกันทำงาน ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมมือกันของเจ้าหน้าที่ ทำให้การปราบปรามยาเสพติดมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังได้พูดคุยกับนายไมเคิล ถึงการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด ที่เป็นการดำเนินการรูปแบบใหม่ของประเทศไทย เพราะเป็นการทำให้ผู้ผลิต ผู้ค้ายา เกรงกลัว และการปราบปรามยาเสพติดแบบนี้จะมีประสิทธิผลที่มากกว่าการจับกุมอย่างเดียว โดยตนได้ชี้แจงเกี่ยวกับการทำงานของไทย ในการจับกุมสารตั้งต้น การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และการจับกุมยาเสพติด ควบคู่กันไป ซึ่งทาง นายไมเคิล เห็นด้วยกับวิธีการนี้ และบอกว่า เราควรใช้ทุกวิธีที่จะทำให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการดูที่เส้นทางการเงิน การฟอกเงินของเครือข่าย จะสาวไปถึงต้นตอ ดีกว่าการจับกุมเม็ดยาที่ถือว่าเป็นปลายทางแล้ว นอกจากนี้เรายังได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ รวมทั้งกระบวนการทางกฎหมายต่างๆ ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้เราพร้อมให้ความร่วมมือตามกรอบกฎหมายอยู่แล้ว ไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เราได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมอบรมและประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งทางสหรัฐฯพร้อมให้ความร่วมมือและประสานงานกันไปเรื่อยๆ เพราะในหลายเรื่องเรามีทิศทางเดียวกัน" นายสมศักดิ์ กล่าว

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงความร่วมมือต่างๆที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม ทั้งปัญหาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การฟอกเงิน อาชญากรรม ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศมีความร่วมมือกันอย่างดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทางนายไมเคิล ได้ชื่นชมการทำงานของ ป.ป.ส.ในการตั้งหน่วยงานเพื่อควบคุมสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ ซึ่งตนได้อธิบายว่า นี่เป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศในลุ่มน้ำโขง ที่ประกอบไปด้วย ไทย จีน เมียนมา ลาว เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งทางสหรัฐฯได้ชื่นชมว่าเป็นเรื่องที่ดีในการรวมกลุ่มกันทำงาน ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมมือกันของเจ้าหน้าที่ ทำให้การปราบปรามยาเสพติดมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังได้พูดคุยกับนายไมเคิล ถึงการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด ที่เป็นการดำเนินการรูปแบบใหม่ของประเทศไทย เพราะเป็นการทำให้ผู้ผลิต ผู้ค้ายา เกรงกลัว และการปราบปรามยาเสพติดแบบนี้จะมีประสิทธิผลที่มากกว่าการจับกุมอย่างเดียว โดยตนได้ชี้แจงเกี่ยวกับการทำงานของไทย ในการจับกุมสารตั้งต้น การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด และการจับกุมยาเสพติด ควบคู่กันไป ซึ่งทาง นายไมเคิล เห็นด้วยกับวิธีการนี้ และบอกว่า เราควรใช้ทุกวิธีที่จะทำให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการดูที่เส้นทางการเงิน การฟอกเงินของเครือข่าย จะสาวไปถึงต้นตอ ดีกว่าการจับกุมเม็ดยาที่ถือว่าเป็นปลายทางแล้ว นอกจากนี้เรายังได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ รวมทั้งกระบวนการทางกฎหมายต่างๆ ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้เราพร้อมให้ความร่วมมือตามกรอบกฎหมายอยู่แล้ว ไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เราได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมอบรมและประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งทางสหรัฐฯพร้อมให้ความร่วมมือและประสานงานกันไปเรื่อยๆ เพราะในหลายเรื่องเรามีทิศทางเดียวกัน