นายกฯ ชี้ต้องรักษาบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพในทุกด้าน เชื่อจะเป็นเป้าหมายแก่นักลงทุนต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2563 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ได้รับการชื่นชมสถานภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ในเรื่องความเชื่อมั่นเชื่อถือ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ทำได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะภูมิใจไปด้วยกัน และยังเชื่อมั่นว่าไทยเป็นประเทศที่แข็งแกร่งสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ และสามารถแข่งขันได้ หากเราผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ ประเทศจะเกิดการพัฒนาได้ดีกว่านี้ ประเทศไทยเป็นเป้าหมายของนักลงทุน ที่มีการแย่งชิงกันเข้ามาลงทุนในประเทศ ดังนั้น เราต้องรักษาบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อยและมีเสถียรภาพในทุกด้าน ก็เชื่อว่าจะเป็นเป้าหมายให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ ทุกวันนี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมด มาตรการต้องปรับแก้กฎระเบียบต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน วันนี้การท่องเที่ยวหลายคนอยากให้เข้ามาเยอะๆ แต่เขาไม่มาเพราะเขาห้ามมา ไม่ใช่เขาไม่มาเพราะเขารังเกียจนายกฯ ไม่เกี่ยวกันเลย และทุกประเทศก็เจอปัญหาเดียวกันหมด เพราะฉะนั้นให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย
"ขอให้ทุกคนภูมิใจที่ได้ทำเพื่อประชาชน แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ว่าทำเพื่อใคร เหมือนในเพลงคนดีไม่มีวันตาย เราทำดีทำไม่ดีทำสุจริตไม่สุจริต เรารู้ทั้งนั้น จึงฝากทุกคนทำด้วย ขอให้ร่วมมือกันดำเนินตามยุทธศาสตร์ชาติ ขอให้ช่วยกันแก้วิกฤตวันนี้ให้เป็นโอกาส อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต หรืออย่าทำวิกฤตให้เป็นดับเบิลวิกฤต เพราะจะทำให้ไปไหนไม่ได้ ให้ทุกคนร่วมกันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า และอย่าลืมว่าไม่มีใครทำอะไรคนเดียวได้ ไม่มีประเทศใดจะพัฒนาปัญหาของประเทศได้โดยลำพัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องยึดมั่น อีกทั้ง การจะพัฒนาประเทศเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะนั่นคือคนไทย นั่นคือประเทศไทย ภายใต้แกนหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง" นายกรัฐมนตรี กล่าว