สุดโหดตัดขาถลกหนังหัวสุนัขชิวาวาเหลือแต่ซาก เจ้าของโพสต์เฟซบุ๊ก เล่าเรื่องสุดสะเทือนใจ
จากกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กายหนึ่งโพสต์เรื่องราวสุดช็อก หลังพบซากสุนัขตัวโปรดเหลือแต่หนังกับขาและเท้าทั้ง 4 ข้าง ตัวและหัวหายไป ถูกทิ้งอยู่กลางถนนสายสุราษฎร์-ตะกั่วป่า พื้นที่ ม.4 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จนมีการแชร์กันอย่างต่อเนื่องก่อนที่ เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนท์ จะนำเรื่องราวสุดสลดมาโพสต์ต่อ
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎรธานี ซึ่งมีลักษณะเป็นโรงแรมม่านรูดเก่า ครองครัวของเจ้าของสุนัขที่มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างมาเช่าเพื่อให้ครอบครัวตัวเองและคนงานก่อสร้างอยู่อาศัย ซึ่งขณะเกิดเหตุมีบ้านของเจ้าของสุนัขอยู่เพียงหลังเดียวส่วนคนงานก่อสร้างได้ย้ายไปไซด์งานที่ จ.ชุมพรกว่า 2 เดือนแล้ว
น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ชาวจ.สกลนคร เจ้าของหมาที่มาช่วยแม่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้ประมาณ 1 ปี เล่าว่า ที่บ้านจะเลี้ยงสุนัขทั้งหมด 5 ตัว ชิวาวา 4 ตัวและโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ 1 ตัว ส่วนตัวที่ตาย ชื่อ โกโก้ เพศผู้ อายุ 3 ปี ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงคืนวันที่ 13 พ.ย.2563 เวลาประมาณ 20.00 น.ได้ยินเสียงสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์เห่าจึงออกมาดู พบว่าเจ้าโกโก้ไม่อยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าลอดกรงที่วางไว้หลังบ้านที่อยู่รวมกันกับชิวาวาตัวอื่น และติดกับกรงของสุนัขพันธ์ุโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งปกติเจ้าโกโก้จะสามารถหาวิธีการลอดกรงหนีได้เสมอ ซึ่งหลังจากหายไปก็พยายามเดินหาตามป่าหลังบ้านที่เจ้าโกโก้เคยไป แต่ก็ไม่พบ จึงเดินหาแถวสวนยางพาราและตามจุดอื่นๆนานหลายชั่วโมงจนดึกจึงกลับเข้าบ้าน จนตอนเช้าวันที่ 14 พ.ย. เดินหาตามป่าหลังบ้านเพราะโกโก้ไม่เคยออกถนน ก่อนจะมาพบซากของเจ้าโกโก้ทิ้งไว้บนถนนหลักห่างจากทางเข้าบ้านประมาณ 10 เมตร ตอนประมาณ 09.00 น.ซึ่งก็ทำให้ใจสลายไม่คิดว่าสุนัขที่ตัวเองรักจะมีสภาพเช่นนี้ จากนั้นจึงนำรูปโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัวจนเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ และแชร์เรื่องราวอย่างต่อเนื่องถึงเหตุการณ์ที่โหดร้ายต่อเจ้าโกโก้สุนัขพันธุ์ชิวาวาตัวนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจนำเรื่องเข้าลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พุนพิน ช่วยตามสืบเรื่องที่เกิดขึ้น
น.ส.เอ เล่าต่อว่า จากสภาพที่พบไม่เชื่อว่าจะโดนรถทับ เพราะถ้าโดนรถทับคงจะเละ น่าจะถูกทำร้ายมากกว่า รู้สึกเสียใจอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้กับตนเองเลย ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านหลังที่เกิดเหตุจำนวน 4 จุด ไม่พบร่องรอยของสุนัขตัวนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน และสุนัขตัวขนาดเล็ก และกล้องที่จับภาพถนนก็มีต้นไม้ขวางอยู่ไม่สามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน ประกอบกับเจ้าของก็ไม่ได้สงสัยผู้ใด หรือมีเรื่องบาดหมางกับใคร อีกทั้งในจุดดังกล่าวบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกันที่ใกล้สุดก็ห่างออกไปกว่า 500 เมตร
