เวียดนามอพยพเกือบ 5 แสน หนีไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” ถล่มวันนี้

2020-11-15 10:20:53

เวียดนามอพยพเกือบ 5 แสน หนีไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” ถล่มวันนี้

Advertisement


ไต้ฝุ่นกำลังแรง “หว่ามก๋อ” เข้าเวียดนามวันนี้ หลังจากถล่มฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย เวียดนามสั่งอพยพประชาชนหลายแสนคน

เวียดนาม หนึ่งในประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มักเป็นด่านแรกเสมอในการเผชิญหน้ากับพายุที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากมีชายทั่งที่ทอดยาว และในวันนี้ (อาทิตย์) “หว่ามก๋อ” จะเป็นพายุลูกที่ 13 ที่จะพัดกระหน่ำเวียดนามในปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 160 รายจากภัยพิบัติตามธรรมชาติ ที่มีสาเหตุมาจากพายุหลายลูกตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา



“ไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยสำหรับประชาชนกว่า 8 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในภาคกลางของเวียดนาม แต่ละครั้งที่กำลังจะเริ่มซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนและกลับมาใช้ชีวิตความเป็นอยู่ปกติ ก็ต้องมาพบกับพายุอีกลูกพัดกระหน่ำซ้ำอีก” เหงียน ธี ซวน ธู ประธานกาชาดเวียดนาม กล่าว

“หว่ามก๋อ” อีกหนึ่งไต้ฝุ่นกำลังแรง ซึ่งเพิ่งคร่าชีวิตประชาชนในฟิลิปปินส์อย่างน้อย 53 ราย, บาดเจ็บ 52 ราย และสูญหายอีก 22 ราย ขณะนี้ กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าจ่อถล่มเวียดนาม ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนเร่งอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยคาดว่าไต้ฝุ่นลูกนี้ จะพัดขึ้นฝั่งภาคตะวันออกของเวียดนามในวันนี้ (อาทิตย์) ถล่มพื้นที่ชายฝั่งไล่ไปตั้งแต่จังหวัดห่าติ๋ญ (Ha Tinh) จนถึงจังหวัดกว๋างหงาย (Quang Ngai) ทั้งสนามบินและชายหาดท่องเที่ยวต่าง ๆ ต้องปิดให้บริการ และชาวประมงได้รับการแจ้งเตือนให้นำเรือกลับเข้าฝั่ง



เวียดนามเตรียมพร้อมรับมือไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม กล่าวว่า นี้เป็นไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงมาก พร้อมเตือนหลายจังหวัดที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางผ่านของ “หว่ามก๋อ” เตรียมพร้อมรับผลกระทบ

สำหรับเวียดนามเตรียมความพร้อมรับมือกับ “หว่ามก๋อ” เป็นอย่างดี สั่งอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดภาคกลางเรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของสำนักงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ

ทั้งนี้ พายุหลายลูกเรียงหน้าถล่มเวียดนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 100 ราย ในเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากฝนตกหนัก ซึ่งจากข้อมูลของกาชาดสากล ระบุว่า มีบ้านเรือนประชาชนประมาณ 400,000 หลังถูกทำลายเสียหาย สภาพอากาศที่เลวร้ายยังทำลายถนนและสะพานหลายแห่งและสร้างความเสียหายต่อแหล่งอาหารและพืชผลทางการเกษตรด้วย

สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างถ้อยแถลงของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาล ที่ระบุว่า หลายจังหวัดเตรียมแผนอพยพประชาชนเกือบ 500,000 คนไปอยู่ในที่ปลอดภัยภายในวันเสาร์ หลังจากไต้ฝุ่นลูกนี้ พัดถล่มเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สดุของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นบริเวณกว้างในช่วงดึกวันพุธจนถึงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ห่างกันเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังไต้ฝุ่น “โคนี” ซึ่งเป็นพายุที่กำลังแรงที่สุดในโลก พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ในรอบ 7 ปี



ส่วนในฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฉุกเฉินถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันเสาร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมเลวร้ายมากกว่า 340,000 คน แต่เพราะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากในแม่น้ำคากายัน เกาะลูซอน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ให้เข้าถึงประชาชนอีกหลายร้อยคนที่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน

ฟิลิปปินส์เคยชินกับพายุโซนร้อนและไต้ฝุ่น แต่การเตรียมความพร้อมรับมือในปีนี้ ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่จากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ลดเวลาการเข้าร่วมประชุมเสมือนจริงกับบรรดาผู้นำชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อไปตรวจความเสียหายจากไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” ซึ่งระหว่างการประชุม เขาเรียกร้องให้ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเร่งรีบในการต่อสู้กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือภาวะโลกร้อน