“สัณหพจน์” สวนกลับโฆษก พท.รู้ไม่จริง ทำประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน ปม รมช.เกษตรฯ ลงนามประกาศ คปก. ปัดเอื้อนายทุน ชี้เป็นการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ตามนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรมีที่ทำกิน สร้างประโยชน์จากที่ดินอย่างคุ้มค่า หนุนออกระเบียบใหม่ปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต2 รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า กรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงนามในประกาศ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(คปก.) เรื่องรายการกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่า รัฐบาลไม่จริงใจต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และเดินหน้าสร้างกลุ่มผลประโยชน์และต่างตอบแทนกันในหลายวาระ จนทำให้ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มนายทุนและเครือข่ายของรัฐบาลนี้ยิ่งทวีมีแต่ความมั่นคง แต่ที่จนลงคือประชาชนนั้น ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีข้อมูลความจริง ทำให้ประชาชนสับสน และมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
สำหรับการลงนามในประกาศ คปก.ดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ให้เกษตรกรผู้ยากไร้ได้มีที่ทำกินสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ รวมทั้งเพื่อการใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ หลังจากหลายรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ต่อปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร จนทำให้กลายเป็นปัญหารื้อรังต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน โดยประเด็นที่มีการตีความว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน ให้เข้ามาถือครองที่ดินส.ป.ก ได้อย่างถูกกฎหมาย ถือเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการทำเกษตรของเกษตรกร จะต้องคิดแบบรอบด้าน ครบวงจร ใช้การตลาดนำการผลิตโดยตามประกาศดังกล่าว ได้ระบุไว้ชัดเจนถึงการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องฯ และต้องอยู่ภายใต้ระเบียบ คปก. ซึ่งหมายถึงกิจการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
“ประกาศ คปก.ฉบับดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนให้พี่น้องเกษตรกรได้รับประโยชน์ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยไม่ใช่เพียงแค่มีที่ดินสำหรับการเพาะปลูกเพียงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการตลาด การพัฒนาคุณภาพ งานวิจัยและนวัตกรรมอื่นๆ ที่จะได้รับจากกิจการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย เช่น โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าเกษตร” นายสัณหพจน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จากการติดตาม รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร ในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จ.ภูเก็ต ที่ผ่านมานั้น พบข้อมูลว่า สภาพที่ดิน ส.ป.ก.ของจ.ภูเก็ต ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชุมชน กว่า 89 เปอร์เซ็นต์ โดยมีโรงแรม รีสอร์ท กว่า 300 แห่ง และโฮมสเตย์กว่า 100 แห่ง เข้าใช้ประโยชน์ ดังนั้น ร.อ. ธรรมนัส จึงได้กำหนดกรอบนโยบายให้ศึกษาเพิ่มเติม กรณีระเบียบการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ผิดประเภท จากเพื่อการเกษตรเป็นการท่องเที่ยว มาพิจารณาก่อนที่จะมีการดำเนินการขั้นตอนต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่นั้น อย่างไรก็ตาม กรณีพบการใช้ประโยชน์ผิดประเภทในที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินนั้นจะต้องถูกยึดคืน และกำหนดการใช้ประโยชน์จากที่ดินใหม่ในชั้นคณะกรรมการ คปก. โดยพิจารณาบริบทในแต่ละพื้นที่ เช่น หากเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ที่เกี่ยวเนื่องจากภาคการท่องเที่ยว การยึดคืนที่ดินจากโรงแรม หรือ รีสอร์ท หากพื้นที่นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้อีกต่อไป จะต้องพิจารณาการใช้พื้นที่โดยคำนึงถึงประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่ และการบริหารจัดการที่มีประโยชน์กับประเทศชาติ และผลประโยชน์ตอบแทนที่จะต้องกลับคืนมาสู่เกษตรกรเป็นหลัก ตามแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้ง 6 ด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี