มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งมีผู้สูงอายุวัย 68 ปีและ 70 ปีรวมอยู่ด้วย และยังมีสูญหายอีก 10 ราย หลังไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” ซึ่งเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งในภาคใต้ของเวียดนาม พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีประชาชนเกือบ 200,000 คน ถูกอพยพออกจากพื้นที่ ขณะไต้ฝุ่นกำลังแรงลูกนี้ พัดถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เพิ่งถูกไต้ฝุ่นกำลังแรงที่สุดในโลก หรือซูเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” พัดถล่มไปเมื่อ 10 ก่อน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 25 ราย
ไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” มีกำลังแรงเทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 2 พัดขึ้นฝั่งครั้งแรกในเวลา 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ใกล้เมืองปัตนานุงกัน จังหวัดเกซอน ซึ่งจากนั้นก็เคลื่อนตัวไปทางตะวันตก ขึ้นฝั่งครั้งที่ 2 บนเกาะลูซอน เกาะใหญ่ของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วม และคลื่นสูงซัดฝั่ง หรือสตอร์ท เซิร์จ สูง 2-3 เมตรซัดเข้าหาฝั่ง เจ้าหน้าที่เตือนฝนตกหนักอาจทำให้เกิดดินถล่มได้ ซึ่งก็เป็นไปตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ เมื่อถนนหลายสายถูกปิดกั้นจากดินถล่มหลายจุดบนเกาะลูซอน โดยในคลิปวิดีโอที่ถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ในจังหวัดคีรีโน แสดงให้เห็นประชาชนเดินลุยโคลนสูงถึงเข่าไปตามถนนที่ปกคลุมด้วยโคลน เจ้าหน้าที่โพสต์เฟชบุ๊กให้เห็นว่า ถนนหลายสายไม่สามารถผ่านได้หลังน้ำท่วมและดินถล่ม
ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายสิบคนเร่งอพยพประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมชานกรุงมะนิลา ในวันพฤหัสบดี หลังจากไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” พัดถล่มทำให้เกิดกระแสลมแรงและฝนตกหนัก น้ำท่วมกรุงมะนิลา และหลายจังหวัดในแผ่นดินใหญ่ของเกาะลูซอน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย
ไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 8 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และเป็นลูกที่ 21 ของปีนี้ ประชาชนต้องปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน เพื่อรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังบ้านเรือนหลายพันหลังจมอยู่ใต้น้ำ
ทั้งนี้ มีประชาชนเกือบ 200,000 คน ถูกอพยพออกจากพื้นที่ ก่อน “หว่ามก๋อ” จะเคลื่อนตัวเข้าฝั่งในช่วงดึกวันพุธที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลม 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 255 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็อ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวขึ้นแผ่นดินใหญ่
อย่างไรก็ตาม ก็มีประชาชนเกือบ 3 ล้านครัวเรือนทั้งในและรอบกรุงมะนิลา ไม่มีไฟฟ้าใช้จากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ ประชาชนต้องขนสิ่งของมีค่าและสัตว์เลี้ยง เดินลุยน้ำสูงถึงเอว
ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ขึ้นสำรวจสภาพน้ำท่วมในกรุงมะนิลาจากพิษของไต้ฝุ่น “หว่ามก๋อ” พบเห็นบ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังในพื้นที่ราบต่ำจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ประชาชนต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน
ฟิลิปปินส์นั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “แนววงแหวนแห่งไฟ” ของมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟระเบิดหรือแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง รวมถึงต้องเจอพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม โดยฟิลิปปินส์สูญเสียเงินเนื่องจากภัยธรรมชาติระหว่างปี 2010-2019 มากถึง 4.63 แสนล้านเปโซ (ประมาณ 2.98 แสนล้านบาท)
อนึ่ง ฟิลิปปินส์มักเผชิญพายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนเป็นประจำระหว่างเดือนมิถุนายน-ธันวาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายและสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ โดยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Typhoon Haiyan) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนทางตอนกลางของประเทศมากกว่า 7,000 ราย