คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องโจมตี ภายในสุสานชาวต่างชาติ ในเมืองเจดดาห์ ทางภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่เจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติเข้าไปร่วมงานพิธี รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน
แถลงการณ์ของสถานทูตฝรั่งเศส กรีซ อิตาลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายลักลอบฝังไว้ ระเบิดขึ้นกลางหลุมฝังศพ ภายในสุสานผู้เสียชีวิตที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (11 พ.ย.) แถลงการณ์ร่วมของสถานทูตต่างชาติ กล่าวประณาม “การโจมตีของคนขี้ขลาด”
ทางการซาอุฯ ยืนยันพนักงานสถานกงสุลกรีซคนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงซาอุฯ อีกคนหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ชาวอังกฤษคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
คณะผู้ปกครองจังหวัดเมกกะ กล่าวประณามการโจมตีพิธีรำลึกถึงผู้วายชนม์ในครั้งนี้ว่า “ขี้ขลาด” พร้อมกับเผยว่า กองกำลังความมั่นคงได้เริ่มเปิดการสอบสวนเหตุการณ์แล้ว เพื่อนำตัวกลุ่มผู้อยุ่เบื้องวหลังมาลงโทษตามกฎหมาย
เหตุโจมตีสุสานครั้งนี้ นับเป็นการโจมตีต่างชาติในซาอุดีอาระเบียครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน หลังจากเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ รปภ.สถานกงสุลฝรั่งเศสในเมืองเจดดาห์ ถูกคนร้ายชายชาวซาอุฯ คนหนึ่ง บุกใช้อาวุธมีดแทง ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในวันเดียวกันกับที่เมืองนีซ ทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งคนร้ายใช้มีดไล่ฟันแทงประชาชนไม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
เหตุโจมตีเหล่านี้ เกิดขึ้นหลังเกิดกระแสต่อต้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่กล่าวสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก หลังจากมีการแสดงภาพล้อเลียนพระศาสดาของชาวมุสลิม จนเกิดกระแสต่อต้านทั่วโลกอาหรับ และชาวมุสลิมทั่วโลก.