อิตาลีทำสถิติติดเชื้อโควิด-19 เกิน 1 ล้านราย กลายเป็น 1 ใน 10 ประเทศทั่วโลก ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้าน ส่วนสหภาพยุโรป ทำสัญญาซื้อวัคซีนต้านโควิดกับบริษัทไฟเซอร์อีก 300 ล้านโดส
สหภาพยุโรป หรืออียู เห็นชอบลงนามในข้อตกลงฉบับที่ 4 กับไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ และไบโอเอ็นเท็ค (BioNTech) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผลิตวัคซีน ในการสั่งซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 จำนวน 300 ล้านโดส หากพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัส โดยอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในแถลงการณ์ในวันพุธว่า หลังการประกาศของไบโอเอ็นเท็คและไฟเซอร์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ถึงแนวโน้มความสำเร็จของวัคซีน เธอมีความยินดีมากที่จะประกาศข้อตกลงในวันนี้ เพื่อซื้อวัคซีน 300 ล้านโดส
ทั้งนี้ ไฟเซอร์ประกาศในวันจันทร์ว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากวัคซีนต้านไวรัสโควิด แสดงให้เห็นว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้หากแนวโน้มยังเป็นไปในแนวทางนี้
ขณะที่ อัลเบิร์ต บัวร์ลา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานฝ่ายบริหารของไฟเซอร์ เรียกพัฒนาการครั้งนี้ว่า เป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา
ไบโอเอ็นเท็คและไฟเซอร์ เตรียมขอให้สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ อนุมัติใช้วัคซีนฉุกเฉิน ซึ่งอาจขอเร็วสุดในสัปดาห์หน้านี้
ในส่วนของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรปนั้น ล่าสุด อิตาลี ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ไวรัสโควิดระบาดรุนแรงที่สุดในภูมิภาค ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งผ่าน 1 ล้านรายแล้วในวันพุธ ขยับแซเม็กซิโก ขึ้นเป็น 1 ใน 10 ประเทศโควิดระบาดรุนแรงที่สุดในโลก กระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี แถลงว่า อิตาลีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 32,961 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ อยู่ที่ 1,028,424 ราย
จากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ พบว่า 10 ประเทศแรกที่ติดเชื้อไวรัสสูงสุด รวมกันแล้วคิดเป็น 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก สหรัฐมากที่สุดทั้งในแง่ของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ส่วนอีก 4 ประเทศในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านราย นอกจากอิตาลีแล้ว คือรัสเซีย, ฝรั่งเศส, สเปนและอังกฤษ
อิตาลีรายงานมีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 42,953 ราย เป็นอันดับ 2 ในยุโรปรองจากอังกฤษ แต่อิตาลีเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในยุโรป กว่า 4.18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าสหรัฐ ที่อัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2.33 เปอร์เซ็นต์
อิตาลี ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤตไวรัสโลก เมื่อต้องใช้รถบรรทุกมาลำเลียงผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงเดือนแรก ๆ ของการระบาด และในช่วง 7 วันที่ผ่านมา อัตราเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดอยู่ที่มากกว่า 34,000 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 455 รายต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน แต่อัตราการเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น เมื่อกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดในวันพุธอยู่ที่ 623 ราย สูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา โดยทุก 10,000 คนในอิตาลี จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดอย่างน้อย 170 ราย และเสียชีวิต 7 ราย
รอยเตอร์รายงานในวันอังคารว่า มีประชาชนมากกว่า 300,000 รายเสียชีวิตจากโควิดทั่วยุโรปและคาดว่า อัตราการเสียชีวิตและติดเชื้อ จะยังคงทะยานต่อเนื่อง เพราะภูมิภาคแห่งนี้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแม้ว่าจะมีความหวังว่าจะได้วัคซีนต้านไวรัสในเร็ว ๆ นี้ก็ตาม
ทั้งนี้ ยุโรปมีประชากรคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก แต่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดเกือบ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่า 1.2 ล้านราย และแม้แต่โรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างดี ก็รู้สึกเริ่มตึงเครียด ขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 52 ล้านรายแล้ว และผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,281,309 ราย
ส่วนประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย นอกจากอิตาลีแล้ว ก็ประกอบด้วย
สหรัฐ มีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 10,353,604 ราย, เสียชีวิต 240,857 ราย
อินเดีย ติดเชื้อ 8,636,011 ราย เสียชีวิต 127,571 ราย
บราซิล ติดเชื้อ 5,699,005 ราย เสียชีวิต 162,802 ราย
ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 1,914,377 ราย เสียชีวิต 42,599 ราย
รัสเซีย ติดเชื้อ 1,822,345 ราย เสียชีวิต 31,326 ราย
สเปน ติดเชื้อ 1,417,709 ราย เสียชีวิต 40,105 ราย
อาร์เจนตินา ติดเชื้อ 1,262,476 ราย เสียชีวิต 34,531 ราย
สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 1,260,192 ราย เสียชีวิต 50,457 ราย
และโคลอมเบีย 1,156,675 ราย เสียชีวิต 33,312 ราย