"ทหารเกณฑ์"ปลดประจำการเปิดใจสุดท้อกับ"กองทัพ"

2020-11-11 14:10:32

"ทหารเกณฑ์"ปลดประจำการเปิดใจสุดท้อกับ"กองทัพ"

Advertisement

"ทหารเกณฑ์" เปิดใจสุดท้อแท้กับ "กองทัพ" ยันรู้สึกสูญเปล่าเหตุถูกไร้งานแบบไร้ประโยชน์


เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "Narit Zanarus" โพสต์รูปภาพพร้อมระบายความในใจหลังเข้าเป็นทหารกองประจำการ ว่า หมดสิ้นเวรกรรมซักทีนะ วันนี้เมื่อปีที่แล้วต้องเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ ทำให้ต้องทิ้งทุกอย่างตรงหน้าและเข้าไปอยู่ในค่ายและทำการ"รับใช้ชาติ"ให้ครบตามเวลาที่กำหนดไว้ ตอนนั้นเลือกที่จะบอกคนรอบข้างเท่าที่จำเป็นว่าต้องไป เพราะไม่รู้ว่าบอกไปแล้วจะเป็นผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน วันนี้ที่เรื่องมันจบสิ้นแล้ว เลยมาบอกให้รู้ว่า ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่ค่อยว่างไปหาเพื่อนนะ เป็น 1 ปีที่น่าจะตกต่ำที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาในทุกๆ ด้าน ทุกมิติเลย เริ่มตั้งแต่ต้องออกจากงานที่ทำอยู่แล้วกำลังไปได้ดีด้วย และพลาดโอกาสดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตตลอด 1 ปี 7 เดือนที่ผ่านไปนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าติดทหาร และพอเริ่มเข้าไปก็ต้องเจอการฝึกพื้นฐานทางทหารนาน 10 สัปดาห์ที่เต็มไปด้วยเรื่องแย่ และบั่นทอนจิตใจมากมาย ซึ่งเป็นการฝึกที่ทั้งเหนื่อยทั้งทรมานที่เต็มไปด้วยเรื่องไร้เหตุผล และการฝึกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต่อการเป็นทหารอย่างที่เคยเข้าใจไว้เลย


ตลอด 10 สัปดาห์นี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถสรุปได้เป็นข้อความสั้นๆ ภายในโพสต์นี้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปจนได้ แต่หลังการฝึกมันก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องบั่นทอนจิตใจมากมายอยู่ดี ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาที่ได้เจอกับสังคมผู้คนที่แปลกใหม่ เจอกับความคิดแปลกๆ ทัศนคติแปลกๆ จากสภาพแวดล้อมใหม่นี้ เจอความท้าทายที่ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ให้ได้ กลุ่มคนที่โดนบังคับเข้ามาอยู่ด้วยกันซึ่งมากกว่า 50 % เรียนจบมาแค่ประถม หลายคนมีลูกแล้ว บางคนมีแล้ว 3 มีไม่น้อยที่เคยใช้ยาเสพติดหรือเคยติดคุก ซึ่งทำให้มันยากเข้าไปใหญ่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับพวกเขาและคุยกันให้รู้เรื่อง โชคดีหน่อยที่ถูกดึงตัวให้ไปทำงานฝ่ายเอกสารเนื่องจากเรียนสูงกว่าชาวบ้านเขา และอ่านออกเขียนได้ใช้คอมเป็น ซึ่งหาคนเป็นยากมาก ทำให้ไม่ได้เจอกับการใช้แรงงานมากมายอย่างที่คนอื่นเจอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่โดนใช้แรงงานเลยนะ ส่วนพวกหมู่จ่าที่ต้องเจอก็เต็มไปด้วยทัศนคติแปลกๆ ไม่แพ้พลทหารเช่นกัน และทำให้อะไรหลายๆ อย่างยากขึ้นไปอีกมากเลย


ตลอด 1 ปีที่เสียไปนั้น เจอทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่มากมาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นเรื่องแย่เกือบทั้งหมด เป็น 1 ปีที่ไม่ได้รู้สึกถึงการรับใช้ชาติเลยแม้แต่น้อย เว้นเสียแต่ว่าคุณนิยามว่า "ชาติ = ค่ายทหาร" เพราะเจอแต่งานการเก็บกวาดพื้นที่ในค่ายให้เรียบร้อยที่ไม่จบไม่สิ้น และงานเอกสารที่ต้องทำก็โคตรจะ bullshi tเลย บางทีก็มีคำถามขึ้นมาในหัวว่า "เกณฑ์กูมาเพื่อเดินส่งเอกสารเบิกค่าเทอมให้ลูกจ่าที่ไหนไม่รู้เนี่ยนะ?" แล้วพอเห็นเงินเดือนที่ได้ยิ่งหดหู่กับชีวิตไปใหญ่ เพราะได้น้อยลงกว่างานที่ทำ 4 เท่า เจอกับการถูกเพ่งเล็งและหาเรื่องเพียงเพราะรู้ว่าเรียนจบจุฬา และด้วยความไม่รู้ของคนอื่นว่าที่เรียนจบมานั้นเกี่ยวกับอะไร ก็ทำให้เจอกับอะไรชวนปวดประสาทมากกว่าที่คิด ซึ่งมันน่าหงุดหงิดมากๆ เลย ถ้าไม่ต้องมาเป็นทหารคงไม่ได้เจอประสบการณ์แย่ๆ ในชีวิตเยอะขนาดนี้


สุดท้ายนี้คงไม่ขอขอบคุณกองทัพบกและหน่วยที่อยู่นะครับ เพราะรู้สึกว่าเสียอะไรไปมากกว่าสิ่งที่ได้มาเยอะมาก และก็ไม่ขอบคุณตัวเองที่ทนกับอะไรที่ต้องเจอมาตลอด 1 ปีมาได้แล้วกัน เพราะรู้สึกว่าล้มเหลวกับการจัดการอารมณ์ต่อเรื่อง (ปสด) นี่เยอะเกินไป และน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ขอขอบคุณครอบครัวและคนรอบตัวทุกคนที่ยอมทนฟังเราระบายเรื่องที่เจอให้ฟัง เพื่อไม่ให้บ้าตายไปก่อนจะปลด ทั้งที่เต็มใจฟังหรือไม่เต็มใจก็ตาม และขอขอบคุณ youtube music กับวงดนตรีทุกวงที่ได้เปิดฟังเพื่อประคับประคองจิตใจให้ผ่านช่วงแย่ๆ ไปได้ เป็น 1 ปีที่รู้สึกสูญเปล่าและน่าเสียดายมากครับ อาชีพทหารจำเป็นต้องมีแต่ทหารเกณฑ์นั้น ไม่จำเป็นต้องมีแล้ว ถ้าจะเกณฑ์ให้ไปทำอะไรแบบนี้ Now I'm the happiest unemployed person GetBackToLife ยังว่างอยู่แนะนำงานมาได้ครับ งดแซวเรื่องทรงผมนะครับ หยุดวาทกรรมรับใช้ชาติ เป็นทหารสูญเสียอะไรมากกว่าที่คิด ยกเลิกเกณฑ์ทหาร