จ่อออกหมายจับ! มือฆ่า อส.ตร.ตรัง โยงปมแก๊งอริลูกชายตั้งตนเป็นมาเฟีย

2020-11-10 17:25:53

จ่อออกหมายจับ!  มือฆ่า อส.ตร.ตรัง โยงปมแก๊งอริลูกชายตั้งตนเป็นมาเฟีย

Advertisement

ตำรวจหิ้ว! พยาน 7 ปาก เร่งสอบปากคำโยงคนร้ายสังหารเหี้ยม อส.ตร.ห้วยยอด จ่อออกหมายจับมือลูกซองประวัติหนีคดี ก่อนคุมตัว “ไอ้เอ็ม” เป็นพยานปากสำคัญคาดเป็นมือชี้เป้า เชื่อมปมอริเก่าฆ่าล้างแค้นลูกชายยิงถล่มบ้าน รื้อประวัติพบแก๊งเป้าหมายตั้งตนเป็นกลุ่มอิทธิพล หวังยึดครองเป็นใหญ่และขับไล่ครอบครัวผู้ตายออกนอกพื้นที่

วันที่ 10 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้เบิกตัว นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด (น้ำต้มพืชกระท่อม) และตกเป็นผู้ต้องสงสัย รวมทั้งพยานรวมทั้งหมด 7-8 ราย ในคดีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ก่อเหตุอุกอาจดักซุ่มยิง นายประดิษฐ์ ไกรสิน หรือเจ็ก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 5 ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เป็นอาสาสมัครตำรวจชุมชน หรือ อส.ตร.สภ.ห้วยยอด และอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อส.อส.) จำนวน 3 นัดกลางกระสุนเจาะเข้าหน้าผาก หน้าอกซ้าย และท้อง เสียชีวิตคารถ จยย.ระหว่างกำลังขับขี่รถกำลังจะกลับบ้าน เหตุเกิดกลางถนนวังสมบูรณ์-ไสเหนือ ติดกับน้ำตกหูหนาน หมู่ 5 บ้านวังสมบูรณ์ ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด จ.ตรังเมื่อเวลา 12.30 น.วานนี้ที่ผ่านมา (9 พ.ย.63)

พ.ต.ท.ประเสริฐ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ทำการเชิญตัวกลุ่มคู่ขัดแย้งของลูกชายของผู้ตายที่ได้ใช้อาวุธปืนไปก่อเหตุยิงบ้านบุคคลข้างเคียง รวมถึงบุคคลที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ มาสอบปากคำไปแล้วจำนวน 7-8 ปาก หนึ่งในนั้นคือ นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ซึ่งได้ถูกควบคุมตัวในคดียาเสพติด และได้ถูกอายัดตัวเป็นพยานในคดีดังกล่าว หลังจากได้มีพยานแวดล้อมรายหนึ่งระบุว่าเห็นนายเอ็มยืนถือมีดพร้าอยู่ในจุดเกิดเหตุก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ รวมทั้งเก็บตรวจหาคราบเขม่าดินปืน รวมทั้งเก็บหลักฐานลายนิ้วมือ เพื่อเทียบเคียงกับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งนำอาวุธปืนที่ยึดมาได้เพื่อนำมาตรวจสอบเทียบเคียง ในขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้จัดกำลังไล่ล่าติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นพอที่จะทราบแล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับในเร็วนี้




ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังงานบำเพ็ญกุศลศพ นายประดิษฐ์ ไกรสิน หรือเจ๊ก ขณะเดียวกันลูกชายผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้มีปัญหากับนายสัมพันธ์ หรือคุ้ย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และมีบ้านอยู่ระหว่างทางที่จะขึ้นบ้านของตนเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในห้วงเวลาหลายปี นายสัมพันธ์ได้ท้าทายและข่มขู่ พูดทิ่มแทงใจให้รู้สึกน้อยใจ และทุกครั้งที่ตนเองขับรถขึ้นลงบ้านเพื่อไปทำงานจะต้องผ่านบ้านของนายสัมพันธ์และในทุกครั้งนายสัมพันธ์ จะดักให้ตัวเองจอดและข่มขู่จะยิงและฆ่า เพื่อที่หวังจะให้ตนเองออกไปพื้นที่ไป ทำให้ตนเองเกิดความคับแค้นใจจึงได้ใช้อาวุธปืนไปยิงใส่บ้านนายสัมพันธ์จริง ซึ่งหลังจากที่ก่อเหตุแล้วทางนายสัมพันธ์ไม่ได้เข้ามาพูดคุยอะไร แต่ทางผู้เป็นพ่อของตนพยายามที่จะเข้าไปเจรจาเพื่อให้ปัญหาจบลงเท่านั้น หลังจากที่เกิดพ่อถูกฆ่าตนเองก็พุ่งเป้าไปที่ประเด็นดังกล่าวซึ่งเคยมีปัญหากัน

ขณะที่นายวินัย ไชยแก้ว อายุ 60 ปี คนสนิทผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนดีและเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด ทำงานเพื่อส่วนรวมเป็นอย่างดี และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร อีกทั้งไม่ได้มีนิสัยที่โหดร้าย เนื่องจากตนเองรู้จักกับผู้ตายมาเป็นระยะเวลานานรู้จักนิสัยผู้ตายดี ส่วนสาเหตุที่มีการลงมือฆ่าได้อย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ตนมองว่าน่าจะไม่มีประเด็นอื่นนอกจากปมปัญหาของลูกชายที่มีเรื่องบาดหมางกับอริรายหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน



รายงานข่าวระบุว่าในขณะนี้ นายสัมพันธ์หรือคุ้ย ซึ่งเป็นคู่อริกับลูกชายผู้ตาย ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ส่วนนายเอ็ม ซึ่งถูกจับกุมในคดียาเสพติดและเป็นพยานปากสำคัญในคดีดังกล่าวมีศักดิ์เป็นลูกพี่น้องกับนายสัมพันธ์หรือคุ้ย ซึ่งมีพยานเห็นว่า พบเจอนายเอ็มยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุก่อนที่จะเกิดเหตุยิงกันตายขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นคนที่ชี้เป้าให้กับมือปืนหรือไม่อย่างไรอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นมือปืนที่ลงมือก่อเหตุในขณะนี้คาดว่าน่าจะเป็นญาติพี่น้องกับนายคุ้ย ซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน และเคยมีประวัติฆ่าผู้อื่นถึงแก่ชีวิตเมื่อปี 2558 เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนคดีขออนุมัติศาลออกหมายจับ อีกทั้งมีรายงานว่า นายสัมพันธ์หรือคุ้ยได้พยายามตั้งตนเป็นกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อที่จะกดดันและขับไล่ให้ลูกชายผู้ตายและครอบครัวออกจากพื้นที่ โดยมีทีมงานเป็นวัยรุ่นจำนวนหนึ่งอยู่ในทีมเดียวกัน