"ฉาย บุนนาค" นำทีมแถลงจุดยืนเนชั่น

2020-11-10 16:40:33

"ฉาย บุนนาค" นำทีมแถลงจุดยืนเนชั่น

Advertisement

"ฉาย บุนนาค" นำทีมแถลงจุดยืนเนชั่น ยันผู้ถือหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง รับเจรจา "อดิศักดิ์" หวนนั่งบริหาร เนชั่นทีวี 

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่อาคารเนชั่นทีวี นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อม นายสุภวัฒน์ สงวนงาม กรรมการผู้จัดการบริษัท นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอาวุโสกลุ่มเนชั่น นายปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี  น.ส.นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ ประธานสหภาพแรงงานเครือเนชั่น ร่วมแถลงทิศทางการเดินหน้าและจุดยืนของเนชั่นทีวี ภายหลังพิธีกรายการข่าวและผู้ประกาศข่าวซื่อดังหลายรายประกาศลาออกและมีกระแสข่าวต่างๆ มากมาย

นายฉาย กล่าวว่า เนชั่นที่วีกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ในปีหน้า นับเป็นสถาบันข่าวที่อายุมากกว่าตน การที่มีบุคคลคุณภาพลาออกเป็นไปตามวิถีชีวิตของเขาซึ่งเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ องค์กรของเราเป็นองค์กรข่าวอันดับ 1 ที่ประชาชนไว้วางใจมาตลอด เราไม่ได้ขายดาราหรือผู้ประกาศ แต่ขายความน่าเชื่อถือและความจริง เพื่อสะท้อนสังคมที่บิดเบี้ยวโดยไม่เป็นกระจกที่บิดเบี้ยวเอง


ขณะที่กรณีมีกระแสข่าวว่าเปลี่ยนผู้ถือหุ้นนั้น นายฉาย กล่าวว่า เนชั่นเป็นบริษัทมหาชน มีผู้ถือหุ้นเป็นหมื่นเป็นพัน ไม่มีชื่อของบุคคลทางการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลเข้ามาถือหุ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีเพิ่ม ส่วนโครงสร้างบริหารยังมีกรรมการชุดเดิม มีแต่จะเพิ่มและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

นายฉาย ยอมรับว่าขณะนี้ ได้มีการเจรจากับนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  มานั่งเป็นผู้บริหาร โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารอีกครั้ง ซึ่งการเปิดรับบุคลากรที่เป็นคนเนชั่นเดิม ผมยินดีเปิดรับกลับเข้ามา ถ้ามีหลักในการทำงานในทิศทางเดียวกับองค์กร

สำหรับแนวนโยบายการทำงาน นายฉาย  กล่าวว่า องค์กรเนชั่น จากนี้ไปจะยึดหลัก "Nation Way " ซึ่งเป็นคู่มือหลักจริยธรรมของคนข่าวเครือเนชั่น แม้ว่าที่ผ่านมาเราอาจจะหลุดจากแนวทางไปบ้างทั้งที่ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ แต่จากนี้ เราจะยึดมั่นการทำงานข่าวอย่างมืออาชีพ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็เป็นเหมือนใบไม้ที่ผลัดใบ แต่รากแก้วของเรายังอยู่ โดยเฉพาะกองบรรณาธิการ ยังอยู่ครบในการผลักดันองค์กร ให้เติบโตต่อไป

ด้านนายปกรณ์ กล่าวว่า การรายงานข่าวที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ สิ่งที่ยืนยันได้คือเรารับฟังความเห็นเเละการวิพากษ์วิจารณ์ของทุกฝ่าย อะไรที่สังคมตำหนิก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไข แต่เมื่อการทำงานเปลี่ยน ผลก็จะเปลี่ยน จุดเด่นเราคือความเข้มข้นของข่าวการเมือง แต่จะเสริมเรื่องข่าวสังคมที่เคยให้น้ำหนักน้อยไป หลังจากนี้เราก็พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนต่างๆ ว่าจะถูกใจสังคมหรือไม่