ดราม่า! แมว “เจ้าสัว” แจ้งความกู้ภัยปล่อยทิ้งป่าดับ

2020-11-10 15:00:28

ดราม่า! แมว “เจ้าสัว” แจ้งความกู้ภัยปล่อยทิ้งป่าดับ

Advertisement

มูลนิธิฯ จับแมวหลุดออกจากบ้านไปปล่อยในป่าทำแมวตาย เจ้าของบ้านแจ้งความเอาผิด ลั่นให้เป็นไปตามกฎหมาย

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Suphaksana Vavichanee ได้ประกาศตามหาแมวชื่อ “เจ้าสัว” อายุ 2 ปี เพศผู้ สายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ย. หลังหลุดออกจากบ้านใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนมาทราบว่าเพื่อนบ้านได้แจ้งมูลนิธิแห่งหนึ่ง ให้ไปช่วยจับแมว เนื่องจากกลัวว่าแมวจะไปกัดลูกหลาน และบอกว่าให้นำปล่อยไกลๆ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิ จึงจับแมวใส่กระสอบและนำไปปล่อยในป่า หลังออกตามหาจน วันที่ 9 พ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าของแมวได้เจอ “เจ้าสัว” เสียชีวิตแล้ว ไม่ไกลจากจุดที่ถูกนำมาปล่อย โดยสภาพเปื้อนโคลนไปทั้งตัว แต่ไม่มีบาดแผล ทำให้เจ้าของเสียใจเป็นอย่าง มาก สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของแมว นำไปสู่การเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

วันที่ 10 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศูนย์วิทยุ มูลนิธิพุทไธสวรรย์ บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พบกับนาย เมธาสิทธิ์ วันจาวา อายุ 32 ปี อาสาสมัคร มูลนิธิพุทไธสวรรย์ บางปะอิน เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ช่วงบ่าย ตนเองได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีประชาชนขอความช่วยเหลือให้ไปจับ แมวไม่มีเจ้าของ ลักษณะดุร้าย เกรงว่าจะทำร้ายคนในบ้าน จึงเดินทางไปพบว่า แมวนั่งอยู่ ตัวเปียกน้ำทั้งตัวเนื่องจากเจ้าของบ้านฉีดน้ำไล่แมวแต่ไม่ยอมไป พร้อมกับส่งเสียงขู่ ตนเห็นว่าแมว ไม่มีปลอกคอ และทางเจ้าของบ้านให้ข้อมูลว่า ได้ถ่ายภาพโพสต์ภาพแมวสอบถามในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านว่าใครเป็นเจ้าของแมว ตั้งแต่ช่วงเช้าไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าของบ้านได้ไปแจ้งกับทางเทศบาลฯ แล้วให้มาช่วยจับแมว แต่ทางเทศบาลฯ อุปกรณ์ไม่พร้อม ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้จึงแจ้งมาทางมูลนิธิ ตนจึงได้ใช้อุปกรณ์ ที่เป็นไม้และมีเชือก บ่วงคล้องไปที่ตัวแมวระหว่างช่วงขาหน้า เมื่อจับแมวไว้ได้แล้ว มีเจ้าหน้าที่อาสาอีกคนมาช่วย พอดี ใช้ผ้าคลุมแมวแล้ว เพื่อให้มองไม่เห็นแล้วจับมัดใส่ถุงปุ๋ย ตนเองไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเอาแมวไปปล่อยที่ไหนจะดำเนินการอย่างไร ปกติจะจับเฉพาะจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน จะนำไปปล่อยตามธรรมชาติ ทางเจ้าของบ้าน บอกว่าให้ไปปล่อยไกลบ้านหน่อย จึงนำไปปล่อยข้างทางซึ่งเป็นที่ถมทิ้งเอาไว้ ห่างจากบ้านที่แมวเข้าไปอยู่ประมาณ 70 เมตร หลังจากนั้น มีเจ้าของแมวโทรมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของแมวสอบถามว่าแมวไปปล่อยที่ไหน ตนจึงบอกจุดไป แต่ช่วงนั้นตนเองทำงานอยู่ไม่สามารถไปช่วยตามหาแมวได้ พอตนเองเลิกงานช่วงค่ำนำกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครพร้อมอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง ไปช่วยกันเดินค้นหาแต่ไม่พบ ตนเองไม่มีเจตนาที่จะทารุณกรรมสัตว์ ไม่ได้จะทำร้ายแมว มีชาวบ้านเดือดร้อนขอความช่วยเหลือมาตนเองก็ไปช่วยเหลือเพราะตนเองเป็นอาสา ช่วยเหลือมาทุกอย่างแล้วที่ร้องขอมา ขอความเห็นใจด้วย




ด้านนาย นิวัฒน์ พงษ์สุข หัวหน้าจุด มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดบางปะอิน กล่าวว่า ในเบื้องต้น ได้ให้อาสาสมัครที่ไปจับแมวพักงานไว้ก่อน พร้อมกับทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าของแมว และชาวบ้านที่ให้ไปจับแมว ขอให้ประชาชนเข้าใจอาสมัครมูลนิธิ ใคร เดือดร้อนอะไร ขอความช่วยเหลือมาเราไปช่วยเหลือทุกครั้ง ฟังเหตุผลฟังการอธิบายก่อนที่จะวิจารณ์กันด้วยความรุนแรง โซเชียลด่ากันถึงพ่อแม่ครอบครัวอาสา ด่ากันถึงมูลนิธิ เจ้าหน้าที่อาสาคนที่ไปจับแมว เป็นอาสาที่ตั้งใจทำงาน ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ช่วยคนเจ็บ ช่วยเหลือ การจับสัตว์เลื้อยคลานมาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 60/258 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบกับ นางสญานี วาวิชนี อายุ 65ปี และ น.ส.ศุภักษณา วาวิชนี อายุ 32 ปี เจ้าของแมว โดยนางสญานี เปิดเผยว่า ครอบครัวเรารักเจ้าสัวมาก เลี้ยงดูอย่างดี ทุกวันนี้เห็นข้าวของเครื่องใช้แล้วยังเสียใจอยู่ ร้องไห้ทุกครั้ง ไม่น่าที่จะทำกับแมวที่เป็นสัตว์ต่างจาก สัตว์ชนิดอื่น จุดที่เราไปเจอศพของเจ้าสัว เราไปหามาแล้วทำไมไม่เจอจนไปหาอีกวันพบร่างของเจ้าสัวที่เนื้อตัวยังนิ่มอยู่เลย เราสงสัยว่าเจ้าสัวน่าจะถูกทำร้ายแล้วนำศพมาทิ้งเอาไว้



น.ส.ศุภักษณา วาวิชนี อายุ32 ปี เจ้าสัวเป็นแมวที่เชื่องมาก ไม่มีนิสัยดุร้าย ตนเองเลี้ยงและดูแลอย่างดี ช่วงกลางคืนเจ้าสัวจะนอนในกรงที่ทำเป็นบ้านให้เจ้าสัว ตลอดระยะเวลา2 ปี ไม่เคยปล่อยแมวออกไปนอกบ้านจะอยู่แต่ภายในบริเวณบ้าน เราติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อดูแมวของเราเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ที่ไม่ใส่ปลอกคอ เพราะเรากลัวว่า เจ้าสัว จะไปปีนป่ายแล้วไปติดอะไรจะรัดคอเจ้าสัวได้ ช่วงวันเกิดเหตุเราไปพักผ่อนต่างจังหวัด สัญญาณโทรศัพท์ไม่มีทำให้ไม่สามารถดูกล้องวงจรปิดผ่านมือถือได้ พอมีสัญญาณเราเปิดกล้องดูพบว่า มองหาเจ้าสัวไม่เจอ จึงได้สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่าเจ้าสัวหลุดออกไปอยู่บ้านอื่นแล้วถูกจับตัวไปจึงได้รีบกลับมาติดตามหาเจ้าสัว พอทราบว่าถูกจับไปปล่อยเราทำทุกวิถีทางที่จะตามหาแต่ไม่พบ จนอีกวัน พบน้องเสียชีวิตแล้ว ทำไมวิธีการของอาสากู้ภัย ชื่อบอกอยู่แล้วว่าการกู้ภัย ช่วยชีวิตแต่ทำไมถึงต้องเอาแมวไปปล่อยในป่า แมวอยู่บ้านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และมีการมาตอบโต้กันในโซเชียลสร้างความไม่พอใจให้กับตนเองอย่างมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ทารุณกรรมสัตว์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ บริเวณริมถนนสายเอเชียขาออกหลักกิโลเมตรที่ 3 จุดที่อาสาสมัครนำเจ้าสัวไปปล่อย และเป็นจุดเดียวกับที่พบศพเจ้าสัว ห่างจากหมู่บ้านไม่มาก พบว่ามีร่องรอยของการเดินค้นหาเจ้าสัว และยังมีกรงดักแมวที่มีอาหารวางเอาไว้ ใกล้กันยังพบพวงมาลัยและขวดน้ำแดงวางไว้