“ไฟเซอร์” เผย วัคซีนโควิด-19 ได้ผลเกิน 90%

2020-11-10 08:05:23

“ไฟเซอร์” เผย วัคซีนโควิด-19 ได้ผลเกิน 90%

Advertisement


“ไฟเซอร์” บริษัทยาสหรัฐ แถลงความก้าวหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 ประสบความสำเร็จกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ “ไฟเซอร์” (Pfizer) แถลงในวันจันทร์ว่า วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการทดลองของบริษัทไฟเซอร์ ประสบผลสำเร็จมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ตามผลการทดลองในเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นชัยชนะสำคัญในการทำสงครามต่อสู้กับไวรัส คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 1 ล้านราย, ติดเชื้ออีกมากกว่า 50 ล้านราย และทำลายเศรษฐกิจโลกเสียหายยับเยิน



นักวิทยาศาสตร์, เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักลงทุน ต่างแสดงความยินดีกับข้อมูลจากการทดลองทางคลีนิกขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในเบื้องต้น ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่จะช่วยยับยั้งการระบาดของไวรัส หากผลการทดลองสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาวัคซีนเพื่อประชาชนหมู่มาก ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ควบคุม จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ และยังมีวัคซีนหลายตัวถูกมองว่ามีความจำเป็น เพื่อให้ได้ตามความต้องการของประชากรโลก

ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเท็ค (BioNTech) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผลิตวัคซีนร่วมกัน กล่าวว่า พวกเขาไม่พบความวิตกกังวลด้านความปลอดภัยร้ายแรง และคาดว่าจะขอการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำการตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดในเดือนธันวาคมนี้ หากผ่านการรับรอง ทั้งสองบริษัทประเมินว่า พวกเขาจะผลิตวัคซีนได้ 50 ล้านโดสในปีนี้ เพียงพอสำหรับการปกป้องประชาชน 25 ล้านคน และผลิตเพิ่มอีกเป็น 1.3 พันล้านโดสในปี พ.ศ. 2564



นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานฝ่ายบริหารของไฟเซอร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่อีกวันสำหรับวงการวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ข้อมูลสำคัญนี้ เกิดขึ้นขณะที่อัตราการติดเชื้อไวรัสโควิดพุ่งทำสถิติสูงสุด, โรงพยาบาลใกล้เกินขีดความสามารถ และภาคเศรษฐกิจก็พยายามดิ้นรนอย่างหนักในเปิดกิจการอีกครั้ง

บรรดาผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า พวกเขาต้องการเห็นข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองทั้งหมด แต่ผลเบื้องต้นก็น่าสนใจ

ทั้งนี้ นายบัวร์ลา ประกาศผลการทดสอบวัคซีนเฟส 3 ขั้นตอนท้าย ในวันจันทร์ร่วมกับบริษัทพันธมิตร BioNTech โดยระบุว่าประสบความสำเร็จมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดของกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครที่เข้าร่วมในการทดสอบ

การวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบครั้งนี้จัดทำโดยคณะกรรมการอิสระ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมเกือบ 40,000 คนใน 6 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ซึ่งนายบัวร์ลา กล่าวว่าผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถช่วยป้องกันการติดโควิด-19 ในคนส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีน และถือเป็นก้าวสำคัญสำหร้บการทดสอบขั้นต่อไป อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าเฉพาะแค่ผลการทดสอบนี้อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเพิ่มเติม



ซีอีโอของไฟเซอร์ผู้นี้ชี้ว่า ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเข็มที่สองและเข็มสุดท้ายในช่วงเวลาเฉลี่ยสองเดือนตามแนวทางที่เอฟดีเอกำหนดไว้นั้น จะสามารถเปิดเผยออกมาได้ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ก่อนหน้านี้ นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ แห่งสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่าวัคซีนที่มีอัตราผลสำเร็จในระดับ 70 – 75 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ายอมรับได้

และในวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความแสดงความยินดีต่อข่าวความคืบหน้าด้านวัคซีนของไฟเซอร์ โดยบอกว่าเป็น "ข่าวดีอย่างยิ่ง" และว่า ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ต่างดีดตัวสูงขึ้นรับข่าวนี้ ทางด้านว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โจ ไบเดน มีแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อการประกาศของไฟเซอร์เช่นกัน แต่ก็เตือนว่าการต่อสู้กับโควิด-19 ยังต้องดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน

ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ เปิดเผยบนเว็บไซต์ของทางบริษัทว่า ทางบริษัทอาจขออนุญาตจากทางการสหรัฐฯ ให้ใช้วัคซีนได้เป็นกรณีฉุกเฉินได้เร็วที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหมายความว่าวัคซีนอาจเข้าสู่ท้องตลาดสหรัฐฯ ได้ภายในปีนี้ แต่ไม่ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน