ผบช.ก.สั่งคุมเข้มปิดช่อง"ตร.ทางหลวง"ตบทรัพย์

2020-11-09 12:20:30

ผบช.ก.สั่งคุมเข้มปิดช่อง"ตร.ทางหลวง"ตบทรัพย์

Advertisement

"ผบช.ก." ย้ำ "ตร.ทางหลวง" ว่ากล่าวตักเตือนก่อนปรับ พร้อมสั่งติดกล้องป้องกันตบทรัพย์


เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมืองทองธานี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. กล่าวภายหลังหารือการทำงานในรอบสัปดาห์กับรอง ผบช.ก. และ ผบก.ในสังกัด โดยยอมรับว่า ขณะนี้จุดอ่อนของตำรวจ บช.ก. คือ ตำรวจทางหลวง เพราะต้องตั้งด่านและสัมผัสประชาชน ทำให้เกิดความไม่พอใจ โดยเฉพาะกรณีเขียนใบสั่งหน้าตู้บริการ หรือจุดบริการทางหลวง ซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานอื่นๆ ที่สร้างผลงานการจับกุมช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ตนเป็นจุดแข็งเพราะออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ตำรวจทางหลวง คนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่ง ไปหาทางแก้ไขจุดบริการทางหลวง หรือจุดตั้งด่าน จะไม่ต้องมีการปรับเงินสดอีกต่อไป เพื่อไม่ให้มีการยัดเงิน โดยให้ออกใบสั่งเพียงอย่างเดียวไม่ให้ปรับบริเวณนั้น เพราะเสี่ยงต่อการถูกนำเผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งจะนำไปสู่การกล่าวอ้างว่าตำรวจเรียกรับเงิน โดยจากนี้ไปจุดออกใบสั่งกับจุดปรับจะอยู่ห่างกันออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร พร้อมให้ตั้งเขตถนนและตั้งกรวยให้ชัดเจนส่วนจุดปรับจะติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างน้อย 3 ตัว


ผบช.ก. กล่าวอีกว่า เมื่อชาวบ้านที่ถือใบสั่งเข้ามาก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบประวัติตามระบบหมายจับ จากนั้นให้ตำรวจอธิบายข้อหาที่กระทำความผิด เช่น ขับรถเร็ว เปลี่ยนช่องทาง ฝ่าฝืนเครื่องหมาย หรือข้อหาอื่นๆ ถ้าตรวจพบว่าเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกก็ให้ว่ากล่าวตักเตือน พร้อมกับเก็บข้อมูลไว้โดยยังไม่ปรับ แต่หากพบว่าเป็นการกระทำผิดซ้ำครั้งที่สองจึงจะดำเนินการจับกุม ขณะนี้ผู้การฯ ตำรวจทางหลวง กำลังคิดรายละเอียดและวิธีการที่ประชาชนจะได้รับการอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด สำหรับข้อมูลที่บันทึกเอาไว้จะเป็นข้อมูลออนไลน์ทั่วประเทศ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของผู้กระทำความผิดกฎจราจร ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ว่ากล่าวตักเตือนหากทำผิดครั้งแรก และต้องไม่ตั้งใจที่จะเอาค่าปรับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหา คือ การเซตซีโร่ของการตั้งด่านของตำรวจทางหลวง โดยพื้นที่บริเวณที่เสียค่าปรับนอกจากจะมีตำรวจที่แต่งเครื่องแบบแล้ว จะให้นักศึกษาฝึกงานเข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย ไม่ใช่ให้นักศึกษาไปทำงานอย่างอื่น เช่น แกะข้าว หรือชงกาแฟ แต่ต้องได้ทำงานจริง และให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในส่วนบริการตรงนี้ด้วย เพราะนักศึกษาฝึกงานเหล่านี้ตนคาดหวังว่าจะสามารถรองรับอารมณ์จากชาวบ้านได้ดีกว่า ที่สำคัญพวกเขา คือ พวกเขา คือ กระบอกเสียงของตำรวจในวันข้างหน้า ต้องทำให้เขารู้สึกว่าอาชีพตำรวจ ต้องเจอกับอะไรบ้าง จะได้ซึมซับความรู้สึกของตำรวจไปด้วย ทั้งนี้ตนได้เน้นย้ำให้คำนึกถึงองค์ประกอบของความจำเป็นที่ต้องตั้งด่าน ไปใช่ตั้งมั่ว ต้องอธิบายได้ เช่น ตั้งตรงจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จุดอันตราย หรือเขตโรงเรียน เพื่อให้คนขับรถชะลอความเร็ว ซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี