รอง ผบช.น. ชี้การชุมนุมผิดกฎหมาย แจงฉีดน้ำเปล่าในลักษณะการเตือน ก่อนประกาศขอโทษเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( บช.น.) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. สรุปผลการชุมนุมในวันนี้ ว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบริเวณใกล้เคียง ต่อมาในเวลา 17.00 น. ได้เคลื่อนตัวไปยังถนนราชดำเนินกลางผ่านสถานที่สำคัญและโบราณสถาน โดยในจุดนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามฝ่าแนวกั้นบริเวณด้านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศให้ยุติการชุมนุมแต่ไม่เป็นผล
จากนั้น ในเวลา 18.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อแนวกั้นบริเวณด้านหน้าศาลฎีกา แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ยุติการชุมนุมอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล ตำรวจจึงต้องฉีดน้ำเปล่าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมในลักษณะการเตือน ก่อนที่ภายหลังจะมีการประกาศขอโทษจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย ยืนยันว่า เป็นการฉีดแบบโปรยน้ำ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้เขตพระราชฐาน ต่อมา ในเวลา 18.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำตู้ไปรษณีย์ 4 ตู้ ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้น ในเวลา 20.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้มีการยุติการชุมนุม
ทั้งนี้ รอง ผบช.น. ยืนยันว่า ตำรวจไม่มีความประสงค์จะใช้ความรุนแรงกับประชาชน มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้ ได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ผิดกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หากจะมีการชุมนุมในครั้งต่อไป ควรแจ้งวัตถุประสงค์และจำนวนประมาณการกของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชัดเจนให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อลดผลกระทบมี่อาจจะเกิดขึ้น