กรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส จะเริ่มห้ามส่งหรือขายแบบนำกลับไปรับประทานที่บ้าน สำหรับอาหารปรุงเสร็จ และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ระหว่างเวลา 22.00 น. ไปจนถึง 06.00 น. ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 พ.ย. เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังทวีความรุนแรง โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ สูงเป็นสถิติถึง 58,046 คน ในระยะ 24 ชั่วโมงจนถึงวันพฤหัสบดี
คำสั่งใหม่ของสำนักงานตำรวจกรุงปารีส ยังห้ามขายหรือจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเวลากลางคืน เริ่มตั้งแต่วันศุกร์เช่นกัน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้ปิดธุรกิจร้านค้าที่ไม่จำเป็น เช่น ร้านค้าที่ไม่ได้ขายอาหารพื้นฐาน หรือยารักษาโรค และประชาชนต้องมีใบอนุญาตมีลายเซ็นเจ้าหน้าที่ สำหรับการออกนอกบ้านสู่ท้องถนน
แต่หลังจากล็อกดาวน์ได้ 1 สัปดาห์ ฝรั่งเศสยังคงมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ เฉลี่ยวันละกว่า 40,000 คน และแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เกิดภาวะตึงเครียด เนื่องจากตอนนี้ เตียงผู้ป่วยไอซียูกว่า 4,200 เตียง ถูกผู้ป่วยโควิด-19 เข้ายึดครอง
นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 ทั่วฝรั่งเศส จะร้ายแรงกว่าระลอกแรก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หากอัตราการติดเชื้อในปัจจุบันไม่ถูกควบคุม และประชาชนไม่เคารพกฎระเบียบของทางการ.