ชาวอเมริกันและทั่วโลกยังคงเฝ้าจับตาสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจนถึงเวลา บ่ายวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหลือลุ้นและขึ้นอยู่กับ 5 รัฐนี้เท่านั้น คือแอริโซนา, จอร์เจีย, เนวาดา, รัฐนอร์ธแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย ที่จะชี้ชะตาว่า ระห่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ใครจะชนะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนายไบเดน มีคะแนนนำเล็กน้อยใน 2 รัฐ คือ เนวาดาและแอริโซนา แต่ก็เสียเปรียบทรัมป์ใน 3 รัฐ คือจอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย อย่างไรก็ตาม ไบเดนก็กำลังตีตื้นอย่างช้า ๆ ในรัฐจอร์เจียและเพนซิลเวเนีย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในขณะนี้ นายไบเดนยังกุมความได้เปรียบจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Vote ซึ่งอยู่ที่ 253 คน จากตัวเลขที่ต้องการทั้งหมดคือ 270 คน ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 214 คน
หากนายไบเดนได้รับชัยชนะจากสองรัฐที่กำลังมีคะแนนนำ คือ รัฐแอริโซนา ซึ่งมีคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน และรัฐเนวาดา 6 คน ตัวแทนของพรรคเดโมแครตผู้นี้ก็จะได้จำนวนผู้แทนเลือกตั้งครบ 270 คนทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องชนะในอีกสามรัฐที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีคะแนนนำอยู่ ตามระบบการเลือกตั้งแบบคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral College ที่สหรัฐฯ ใช้ในการตัดสินหาประธานาธิบดี
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่า เมื่อจำเป็นต้องได้รับชัยชนะอย่างน้อย 4 จาก 5 รัฐที่กล่าวมา และในจำนวน 4 รัฐนั้นต้องมีรัฐเพนซิลเวีย ซึ่งมีคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน และรัฐจอร์เจีย 16 คน รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังต้องสามารถชนะที่รัฐอลาสก้าที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า รัฐเพนซิลเวเนียอาจจะทราบผลเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ก่อนคาดการณ์ไว้หนึ่งวัน ซึ่งอาจทำให้การรอคอยที่เจ็บปวดสำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปสิ้นสุดลง ทรัมป์ยังคงมีคะแนนนำในเพนซิลเวเนียประมาณ 115,000 คะแนน แต่ไบเดน ก็ตามไล่เข้ามาเรื่อย ๆ โดยได้รับคะแนนจากพื้นที่ในเมือง หากไบเดนชนะในรัฐนี้ เขาก็จะยึดครองทำเนียบขาวทันที ไม่ต้องไปดูผลรัฐอื่น เพราะปัจจุบันมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสะสมอยู่ที่ 253 คน บวกเพิ่มของรับเพนซิลเวเนียอีก 20 คน ก็เกิน 270 คน
ส่วนทรัมป์ไม่สามารถเอาชนะในรัฐเพนซิลเวเนียได้เพียงรัฐเดียว เพราะคะแนนไม่ถึง จำเป็นต้องชนะในรัฐจอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา, แอริโซนา หรือเนวาดา ด้วย ซึ่งทั้ง 4 รัฐ ยังไม่ได้มีการยืนยันผลอย่างเป็นทางการ แต่ทีมรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็เดินสายฟ้องร้องต่อศาลโจมตีกระบวนการเลือกตั้งและให้ระงับการนับคะแนนในรัฐที่เหลืออยู่นี้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเลือกตั้ง กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ในการดำเนินการทางกฎหมายของทรัมป์นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลอะไรเป็นชิ้นเป็นอันต่อผลการเลือกตั้ง แต่ทรัมป์ย้ำอยู่หลายครั้งว่า เขาคาดการณ์ว่า ศาลสูงสุดสหรัฐ ซึ่งมีสมาชิกส่วนใหญ่แนวอนุรักษ์นิยมถึง 6-3 คนและยังมีผู้พิพากษาถึง 3 คน ที่ทรัมป์แต่งตั้งเองด้วย จะมีบทบาทสำคัญในการชี้ขาดผลเลือกตั้ง

สำหรับตัวเลขคะแนนจากประชาชนที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งแบบรายบุคคล หรือ popular vote ขณะนี้นายไบเดนได้ไปแล้ว 71.5 ล้านเสียง ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ไปแล้ว 67.1 ล้านเสียง ตามรายงานของ Edison Research และ The Associated Press โดยประมาณการณ์ว่า ปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 150 ล้านคน หรือราว 65% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2451