รวบ! แก๊งตุ๋นรายใหญ่ หลอกขายรถหลุดจำนำ

2020-11-05 17:50:33

รวบ! แก๊งตุ๋นรายใหญ่ หลอกขายรถหลุดจำนำ

Advertisement

ตำรวจภาค 3 รวบแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายรถหลุดจำนำรายใหญ่พฤติการณ์ผู้เสียหายโอนเงินแล้วไม่ได้ของ เตรียมเร่งขยายผลหาต้นตอรายใหญ่

วันที่ 5 พ.ย. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำผลงานแสดงการจับกุมแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายรถหลุดจำนำที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยพฤติการณ์คนร้ายได้เปิดเฟซบุ๊ก โพสต์สินค้าเป็นประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีผู้เสียหายคือ น.ส.พลอยแก้ว ชุ่มคำ อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ว่าได้เข้าไปดูในเฟซบุ๊ก ที่ได้มีการประกาศขายรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว ซึ่งผู้เสียหายได้ติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ในราคา 10,000 บาท และได้โอนเงินไปยังบัญชีที่กลุ่มคนร้ายแจ้งมา ซึ่งเมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับรถจักรยานยนต์ อีกทั้งไม่สามารถติดต่อกับเฟซบุ๊กนั้นได้อีกเลย ชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลต่างๆ จนกระทั่ง ทราบตำหนิรูปพรรณ คนร้ายที่มากดเงินประจำทุกครั้งอย่างชัดเจน โดยตลอดการสืบสวนกว่า 2 เดือน พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีของกลุ่มคนร้ายกว่า 300,000 บาท

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับได้วางแผนอำพราง ติดต่อขอทำการซื้อรถจักรยานยนต์ ไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว แล้วตกลงซื้อขายรถจักรยานยนต์ และได้โอนเงินมัดจำรถจักรยานยนต์พร้อมได้วางแผนเพื่อจับกุม จนพบชายไทยลักษณะตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่กดเงินที่ทำการสืบสวนมา ขับขี่รถจักรยานยนต์มากดเงินผ่านตู้กดเงิน หลังจากได้รับการโอนเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อ คือ นายเกิด (นามสมมุติ) จากนั้นจึงได้ขยายผลจนสามารถจับกุมหญิงที่ทำหน้าที่โทรศัพท์ให้นายเกิดถอนเงินได้ อีก 1 ราย ทราบชื่อ คือ น.ส.นัท (นามสมมติ)




จากการขยายผล ทำให้ทราบถึงตัวการใหญ่ ที่เป็นผู้สร้างและใช้เฟซบุ๊ก คือ น.ส.เกศ (นามสมมติ) และยังเป็นผู้ที่ได้เงินจำนวนมากไป อีกทั้งยังพบว่า นายสุชาติ (นามสมมติ) เป็นผู้ทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารต่างๆ หลายบัญชี เพื่อให้ น.ส.เกศ ใช้ในการหลอกลวงประชาชน โดยผู้ต้องหาที่จับได้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งจะดำเนินการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุกรายต่อไป