อังกฤษกลับเข้าสู่มาตรการล็อคดาวน์ประเทศอีกครั้ง ตามรอยหลายประเทศในยุโรป ที่ใช้มาตรการเข้มข้นนี้ไปแล้ว เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 และลดตัวเลขผู้เสียชีวิตในทวีป มาตรการล็อคดาวน์รอบใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี โดยจะมีการปิดบาร์และธุรกิจที่ไม่จำเป็นไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม มาตรการล็อคดาวน์ในอังกฤษ มีขึ้นไม่กี่วัน หลังฝรั่งเศสและเยอรมนี ประกาศใช้มาตรการเดียวกันนี้ไปแล้ว และก่อนที่อิตาลีจะประกาศแบ่งโซนสีแดง แสดงพื้นที่การระบาดของไวรัสโควิดในวันศุกร์นี้
ในการแถลงก่อนลงมติในรัฐสภาเมื่อวันพุธ เพื่อใช้มาตรการล็อคดาวน์ครั้งใหม่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวว่า เขาได้เผชิญหน้ากับข้อมูลที่คาดการณ์ว่า สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ หรือเอ็นเอชเอส ของสหราชอาณาจักร อาจ “ล่มสลาย” ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นายจอห์นสัน กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในการระบาดรอบ 2 อาจสูงกว่าผู้เสียชีวิตในการระบาดช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยมีจำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลหลายแห่ง ก็สูงกว่าในช่วงที่มีการระบาดสูงสุดรอบแรก
ส่วนชาวกรุงลอนดอนเมินไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง พากันแห่ไปเที่ยวนั่งดื่ม นั่งกินจนล้นผับและร้านอาหารในคืนวันพุธ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนมาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศครั้งใหม่จะมีผลบังคับใช้เที่ยงคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดรายใหม่ในสหราชอาณาจักรในวันพุธ อยู่ที่ 492 คน มากที่สุดตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม
ย่านสถานบันเทิงโซโฮ ในกรุงลอนดอน เนืองแน่นไปด้วยนักท่องราตรีในคืนสุดท้ายก่อนเล็อคดาวน์ ซึ่งประชาชนจะได้รับคำสั่งให้พักอยู่ที่บ้านจากเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี เพื่อควบคุมการระบาดใหม่ของไวรัสโควิด ที่บรรดานักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าการระบาดในระลอกแรก ซึ่งทำให้มีการล็อคดาวน์ประเทศนาน 3 เดือนในช่วงต้นปีนี้
สหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตจากโควิดมากที่สุดในยุโรป และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่า 20,000 รายต่อวัน นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุด อาจมีผู้เสียชีวิต 80,000 ราย หากไม่มีมาตรการต่าง ๆ ออกมาป้องกันและควบคุมการระบาด
เจ้าหน้าที่ต้องสลายกลุ่มนักเที่ยวในคืนวันพุธ ที่แห่เที่ยวส่งท้ายก่อนล็อคดาวน์ ก่อนหน้านี้ ตำรวจใช้โซเชียล มีเดีย เรียกร้องให้ประชาชนที่ออกไปท่องราตรีในคืนวันพุธ ปฏิบัติตามกฎเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing ซึ่งจากข้อมูลการจ้องโต๊ะร้านอาหาร พบว่าการจองเพิ่มสูงขึ้นมากสำหรับร้านอาหารในกรุงลอนดอน ในช่วงใกล้ถึงมาตรการล็อคดาวน์ครั้งใหม่
ส่วนที่เหลือในสหราชอาณาจักร ทั้งสกอตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ กำหนดนโยบายล็อคดาวน์ได้ด้วยตัวเอง และประกาศใช้มาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุขมากขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว