ติดลูกมากกว่าเมีย "เอ็ม อภินันท์" กับความประทับใจกับการเป็นคุณพ่อลูกแฝด

2020-11-05 10:30:34

ติดลูกมากกว่าเมีย "เอ็ม อภินันท์" กับความประทับใจกับการเป็นคุณพ่อลูกแฝด

Advertisement

"เอ็ม อภินันท์" ยอมรับ ติดลูกมากกว่าภรรยา หวงหนักเพราะกว่าจะมีลูกสมใจได้ต้องไปขอลูกจาก "พระสังกัจจายน์" หลายคนสนใจอยากรู้ไปขอลูกที่ไหน ต้องติดตาม ....



พระร้ายหน้าหล่อตัวท็อปของวงการ "เอ็ม อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล" มาเยือนรายการ "ต้มยำอมรินทร์" ได้เผยเส้นทางดาวร้ายในตำนาน ที่เป็นภาพจำในบทบาทของตัวร้ายในคราบของคนดี พร้อมเล่าความประทับใจกับบทบาทนอกจอกับการเป็นคุณพ่อลูกแฝดที่ยอมรับว่า ติดลูกมากกว่าภรรยา และยังได้สารภาพทั้งหวง ทั้งห่วง ลูกสาวฝาแฝดที่เพิ่งจะ 6 ขวบเอามากๆ เพราะยิ่งโตยิ่งมีแววสวยขึ้นทุกวัน เหตุที่หวงหนักเพราะกว่าจะมีลูกสมใจได้ต้องไปขอลูกจากพระสังกัจจายน์มาจนในที่สุดก็สมหวังดั่งที่ตั้งใจ แถมทุกคนที่ไปขอลูกนั้น ส่วนใหญ่จะได้ลูกแฝดอีกด้วย จะเป็นที่ไหน อย่างไร ต้องไปคุยกันเลย




ตอนแรกเข้าวงการมาไม่ได้เริ่มจากบทร้ายใช่ไหมหรือมาปุ๊บร้ายเลย ?
จริงๆ งานแสดงครั้งแรกคือภาพยนตร์ แม่เบี้ย ตัวนั้นก็คือเป็นบทนี้แหละ เป็นบทแอบร้ายอย่างนี้เลย เล่นเป็นพจน์เป็นคนที่แบบว่าไปจีบนางเอกเขา แล้วก็สุดท้ายก็กลายเป็นร้าย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เล่นร้ายอีก จนแบบว่ามาเป็นพระเอก เป็นคนดี จนก็พักไปหลายปี จนมีอยู่ครั้งนึงก็พี่ปิ่น ทีวีซีนเนี่ยแหละ เขาบอก “เฮ้ยมาลองเล่นร้ายดูบ้างไหม” เราก็รู้สึกว่าจะดีเหรอเดี๋ยวคนเขาจะแบบว่า เดี๋ยวคนไม่รัก เดี๋ยวคนไม่ชอบแต่สุดท้ายก็เล่น กลัวไปเดินตลาดไม่ได้อะไรอย่างนี้ แต่ก็ท้าทายดีแล้วเราก็แบบทำเต็มที่อยู่แล้วตามปกติครับ สรุปออกมาก็คือกลายเป็นคนชอบ หลังจากนั้นร้ายอีกยาวเลยประมาณ 90% คือเราเล่นได้หมด ดีก็ได้ร้ายก็ได้ หลังๆเล่นดีคนก็เริ่มไม่เชื่อ คนดูจนจบแล้วแบบ เดี๋ยวมันต้องมีอะไร ดีจริงหรือเปล่า? ดูไปจนจบ ดีเหรอ อะไรอย่างนี้ก็มี



 

แต่กลายเป็นว่าบทบาทของเราการแสดงของเรา เลยกลายเป็นสิ่งที่น้องๆ รุ่นหลังๆ ศึกษาเลย ?
ก็มีครับ ก็มีพูดถึง เหมือนอย่างบางคนอย่างนี้จะติดว่าต้องแบบต้องรับบทเป็นพระเอกเท่านั้น ต้องเป็นคนดีเท่านั้น ไม่กล้าที่จะไปเล่นเป็นบทร้ายเราก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่เขาเอาไปพูดว่า จริงๆ แล้วมันก็มีทางให้เล่นนะ เป็นตัวร้ายมันก็สนุกได้ ส่วนเรื่องเรียนการแสดงก็มีบ้างนะครับเรียนการแสดงมีบ้าง แต่ผมว่ามันหนักๆ สุดเป็นเป็นเรื่องของแบบว่าความคิดของเรามากกว่า ในใจเราว่าเราจะแบบไปยอมรับแล้วไปรักในตัวละครนั้นได้ยังไง คือเหมือนบางทีมันจะมีแบบคนดีก็คือรักไปเลยขาวไปเลย ร้ายก็คือดำไปเลย แล้วมันจะแบบใจเราก็จะไปเชื่อว่าเราจะไปรักคนร้ายมันยากนิดหน่อย แต่เราก็ต้องเอาตัวเราเข้าไปรักตัวละครนั้นก่อนเราถึงจะไปเล่นเป็นเขาได้ โดยที่มันจะไม่มาเจือปนกับชีวิตจริงที่เราจะต้องไม่เป็นคนร้ายอะไรแบบนี้ครับ ตรงนี้ผมว่ามันเป็นจุดที่แบบว่าต้องทำใจยากนิดหน่อย เป็นเรื่องของการต้องปรับทัศนคติของตัวเอง

พยายามทำให้ตัวเองเชื่อว่าคิดร้ายได้ แต่บางครั้งมันเผลอ ?
บางทีมันติดไปเหมือนกันครับ



แล้วมีไหมว่าแบบออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะแล้วเนี่ย คนมองเราแบบกลัวหรือกังวล รู้สึกว่าเราร้าย ?
ตอนนั้นที่แบบว่ามาเล่นร้ายแรกๆ มีเหมือนเด็กแถวบ้านที่เราก็เจอกันมาตลอด เด็กที่แบบเขาตอนนั้นน่าจะอายุประมาณไม่ถึง 10 ขวบครับ ก็เจอหน้ากันก็เล่นกัน พอละครร้ายออกไปปุ๊บเจอหน้ากับปุ๊บเขาก็ไม่กล้าสบตา



เราให้ลูกดูที่เราเล่นร้ายไหม ?


ไม่ให้ดู ไม่ให้ดูละครที่เราเล่นร้าย เพราะส่วนใหญ่เล่นร้าย ก็ให้เขาดูเฉพาะเรื่องที่มันน่ารักๆ อะไรอย่างเนี่ย เขายังแยกแยะไม่ออกเพิ่ง 6 ขวบเอง

ได้ข่าวว่าหวงลูกสาวมากๆ ด้วยใช่ไหม ?
ครับผม ก็คิดว่าหวงนะครับ

6 ขวบต้องหวงแล้วเหรอ ?
ห่วง แล้วก็หวง แล้วก็ติดลูก คือจริงๆ มันจะมีเรื่องให้ห่วงตั้งแต่ตอนเล็กจนถึงตอนนี้แตกต่างกัน คือตอนที่เราลูกเล็กๆ แล้วเราก็เห็นคนที่มีลูก 6-7 ขวบ บอก “โหยพี่ สบายแล้วสิเนอะ ไม่ต้องลำบากแล้ว เหมือนโตแล้ว” เขาก็บอก “ยังหรอก มันก็มีเรื่องให้มันต้องห่วงตามวัย” พอจนถึงตอนนี้จริงด้วยเนอะ เพราะมันเป็นไปตามวัยจริงๆ เหมือนตอนเล็กก็แบบว่าไหนจะอุ้มพาเข้านอน พอเริ่มโตมาหน่อย วิ่งเล่นทั่วไป เดี๋ยวแบบหกล้ม ไปชนนั่นชนนี่ รถมาไม่รู้เรื่อง จนถึงตอนนี้ 6 ขวบ เรื่องพวกนั้นไม่ค่อยมีแล้ว เขาจะเริ่มรู้เรื่องแล้วว่าเดินออกไปต้องดูรถดูอะไร แต่มันเป็นเรื่องช่วงเปลี่ยนของการเข้าโรงเรียน ตอนนี้ก็เพิ่งย้ายมาเข้าโรงเรียนใหม่อะไรอย่างนี้ฮะ ตอนนี้อยู่อนุบาล 3 ครับ



เป็นคนที่พอเลิกงานแล้วกลับบ้านเลยตั้งแต่มีลูก ไม่ไปไหนเลย ?
จริงๆ ก็เลิกงานแล้วก็กลับบ้านเลยมาตั้งนานแล้วนะ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ

 

ถ้าย้อนกลับไปแต่งงานมาแล้วกี่ปี ?
ปีนี้ครบ 10 ปีครับ

ช่วงก่อนที่จะมีลูก ช่วงนั้นน่ะเรารออะไรอยู่หรือว่ามันไม่มา ?
ตอนนั้นเขาไม่มาเอง คือจริงๆ ตอนแรก แต่งงานเราก็ต้องเที่ยวเล่นก่อน จะใช้ชีวิตคู่ไปไหนก็ไป เที่ยวอะไรก็ไปสัก 2 ปี แต่พอเราตั้งใจปุ๊บไม่มาไง คือมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่ทุกคนคิดว่าแบบพอปั๊บ มันจะมาปั๊บ มันไม่ใช่มันยากมากเลยพี่ แล้วพอไม่มาก็แบบ มันก็เริ่มเครียด

ตอนที่เรารออยู่ 2 ปี มีไปขออะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างไหม ถึงได้ลูกแฝดมา ?
ตอนแรกไม่เลย ตอนแรกก็คิดว่าแบบ เดี๋ยวเขาก็มา เราก็ตามธรรมชาติไปอะไรอย่าง พอนานๆ ไปคนก็ชอบถาม คนก็ชอบทัก ทำไม่เป็นเดี๋ยวช่วยไหม หยามกันนี่หว่า รู้ได้ไงวะว่าทำไม่เป็น (หัวเราะ) คือจริงๆ เป็นคนชอบไหว้พระทำบุญอยู่แล้ว แล้วก็มีอยู่ครั้งนึงก็ไปวัดที่นครศรีธรรมราชครับ วัดพระศรีมหาธาตุ ก็ไปไหว้ปกติ ไปไหว้พระธาตุ ไปไหว้ท่านจตุคามอะไรอย่างนี้ปกติ แล้วก็มีชาวบ้าน ป้าๆ แถวนั้นก็เดินมา “เอ้า นี่ยังไม่มีลูกนี่ มานี่ๆ ไปขอ ไปขอ” ก็เดินไป แล้วในบริเวณวัดจะมีศาลาอยู่ศาลานึง เราก็เดินตามไป เข้าไปข้างในก็เป็นพระสังกัจจายน์องค์  เขาบอกให้ขอลูก เราก็ขอๆ ขอพระสังกัจจายน์ก็ดีอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร ก็ขอไป หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ลูกแฝด แล้วก็แฝดแบบที่ไม่ได้ตั้งใจด้วย ก็มาเอง แฝดธรรมชาติ ไข่ใบเดียวกัน แฝดเหมือน เสร็จแล้วทีนี้เวลาก็ผ่านไป จนประมาณปีนึง เราก็ไปทำบุญอีก จนลูกคลอดออกมาแล้ว ประมาณขวบนึง ก็กลับไปอีกก็กลับไปไหว้ท่านอีก เพื่อไปขอบคุณ พอไปถึงปุ๊บเดินเข้าไปในศาลานั้นน่ะ ผนังมีแต่คนเอารูปลูกแฝดมาตั้งไว้ ก็เหมือนกับว่าคนไปขอลูกจากท่าน แล้วพอถึงเวลาก็ต้องเอารูปเนี่ยมาถวาย แล้วแฝดเต็มเลย คือผนังทั้งศาลามีแต่แฝดๆๆๆๆ เราก็ ทำไมเราเข้ามาตอนแรกเราไม่เห็น ก็แปลกดี

 

ในตระกูลครอบครัวฝั่งภรรยากับฝั่งเอ็มมีใครมีแฝดมากก่อนไหม ?
เมื่อก่อนก็คิดว่าไม่มี มาได้ยังไง จนลูกคลอดออกมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมี คือฝั่งแม่เอ็ม เขาจะมีพี่สาวที่ห่างกันหลายปีเป็นคู่แฝด แต่สมัยแบบ 70 กว่าปีเนอะ การแพทย์มันไม่ค่อยดีมั้ง พอคลอดมาแล้วเขาก็ไม่รอด ก็เลยไม่เคยมีใครรู้ว่าเรามีเชื้อแฝด แล้วพอแฟนท้องแม่ก็ไม่พูดเรื่องนี้เพราะว่ามันแบบเป็นเรื่องที่ไม่ดี พอคลอดออกมาเรียบร้อยแม่ถึงได้บอก เราถึงได้ อ๋อ...เรามีนี่หว่า   

มีคนบอกว่าเป็นคุณพ่อสายเปย์ ลูก 6 ขวบอยากได้อะไรต้องสรรหามาให้ทุกอย่าง ?
อยากให้เขาได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ก็ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เสื้อผ้าหรืออะไรก็แล้วแต่ไม่ให้เล่นเกม ของที่เป็นเทคโนโลยีที่มันเกินวัยก็ไม่ได้ให้ สมมติเขาเจอของเล่นไปหยิบมาแล้วก็บอก เอาไปคนละชิ้นนะ ก็ไปเดินดูในร้าน ต้องซื้อ 2 ชิ้น เขาแย่งกันพี่ เมื่อก่อนซื้อ 2 สมมุติซื้อเสื้อสีชมพูก็ให้สีชมพู 2 ตัว พอหลังๆ เขาเลือกเอง คนนึงเลือกชมพู คนนึงเลือกฟ้า เราก็แบบ พอถึงเวลาจะต้องแย่งกันไง สรุปก็คือต้องซื้อชมพู 2 ฟ้า 2 บางอารมณ์อยากจะเหมือน บางอารมณ์อยากจะไม่เหมือนแล้วแต่  

พอเขาโตขึ้นมา เอา ณ วันนี้ก่อนเขาอยากเหมือนกันหรือไม่อยากเหมือนกัน ?
เป็นบางอารมณ์ครับ บางอารมณ์ก็อยากเหมือนกัน บางอารมณ์ก็ไม่อยากเหมือนกันบอกไม่ได้จริงๆ ตอนนี้คือแบบ บางทีคือแบบว่าเล่นเป็นคาแรกเตอร์การ์ตูนอะไรแบบนี้ คนนึงก็ต้องเล่นเป็นตัวนึง คนนึงก็ต้องเล่นเป็นตัวนึง ซึ่งก็ต้องแต่งตัวคนละแบบอะไรอย่างนี้ บางอารมณ์ก็อยากเหมือนกัน

 

เอ็มกับภรรยาใครตามใจลูกมากกว่ากัน แล้วใครดุมากกว่ากัน ?
โอ๊ย แหม ตัวร้ายขนาดนี้  ก็ต้องตามใจลูกสิครับ

เห็นบอกว่าตามใจ เข้าข้างลูกจนบางทีภรรยาปรี๊ดเลย ?
เข้าข้างมาก คือไม่ได้เข้าข้างแบบนั้นนะ คือ เป็นคนที่แบบพยายามที่จะเข้าใจเด็กครับ คือเป็นคนที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคน แล้วก็อยู่ในครอบครัวใหญ่ แล้วก็จะเห็นคนหลากหลายรูปแบบ เราก็พอจะเข้าใจว่า ที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะว่าเขาเป็นเด็ก จะไปคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็กมันไม่ใช่ เหตุผลที่ใช่กับผู้ใหญ่ไปใช่กับเด็กไม่ได้ พอเด็กเขางอแงมาระดับ 1 เขางอแงระดับ 2 เราก็ไปต่อ เพื่อที่จะทางนี้ไม่ได้ เราก็ไปทางอื่น  เราก็โอ้โลมปฏิโลมไปเรื่อย จนกว่าเด็กเขาจะโอเค แต่แฟน เขาเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง ญาติก็ห่างกันมาก เขาก็ไม่เคยรู้ว่ามันต้องดิวยังไงกับเรื่องพวกนี้ พอพูดไม่รู้เรื่องปุ๊บ เขาก็จะโกรธแล้ว พอเป็นแบบนี้บ่อยๆ มันก็เลยกลายเป็นว่า อ้อ เข้าข้างลูกใช่ไหม เขาเลยมาลงที่เรา

เห็นลูกน่ารักมาก เป็นแฝดด้วย เคยมีความคิดยังไงกับการที่จะให้เขาเข้าวงการ ?
ตอนนี้ถ้าแบบเล็กๆ น้อยอย่างนี้ เช่น ออกรายการทอล์กโชว์ หรือว่าไปถ่ายแฟชั่นอะไร ถ่ายโฆษณา ส่วนงานละครอาจจะต้องให้เขาโตกว่านี้ก่อน โตที่แบบว่าแยกแยะโลกจริงกับโลกไม่จริงให้ได้ก่อน คือเรารู้นี่ว่าดาราเล็กมันเหนื่อย มันยากนะ ที่เราเห็นเขาพามาเข้าฉากอย่างเนี่ย แล้วส่วนใหญ่นางเอกเด็กมันจะต้องมีชีวิตแบบชอกช้ำระกำ ทุกข์ระทม อะไรก็ไม่รู้ มันต้องถูกทิ้ง มันต้องร้องไห้ แล้วแบบภาพเบื้องหลัง แม่ต้องแบบ ร้องไห้สิ ร้องไห้ นี่ถ้าไม่ร้องนะ นึกดูดิพ่อทิ้งเราไปนะ ลูกเรากลับบ้านไปมันคงจะพัง ไม่เอา ถ้าเขาดตกว่านี้ อยากจะเล่นเองจริงๆ นะ อาจจะเป็นวัยรุ่นหรืออะไรแบบนี้ก็ค่อยจะว่ากันไป

 

เห็นรักลูกแบบนี้ อยู่ดีๆ จะให้มาโหดกับเด็กยาก นอกจากเป็นเด็กผู้ชายที่มายุ่งกับลูกสาวใช่ไหม ?
(หัวเราะ) พูดเหมือนรู้ ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ คือเขาจะมีนาฬิกาที่โทรหากันได้เด็กๆ แล้วเหมือนเพื่อนๆ เขามีมาก่อน เพราะว่าเอ็มพยายามจะไม่ซื้อให้ แล้วเขาต้องไปแอดเฟรนด์กันถึงจะโทรหากันได้ ทีนี้ลูกเราก็เพิ่งมีไป แล้วอยู่ดีๆ กลับบ้านมาแล้วแบบว่าเพื่อนผู้ชายก็ไปแอดเฟรนด์กับลูกเรา แล้วตกเย็นผู้ชายก็โทรมา ตอนยังยังไม่ถึงบ้าน เราก็ไปเที่ยวต่อ เอ็มก็ขับรถอยู่ อยู่ดีๆ โทรศัพท์ลูกดัง เราก็แบบใครโทรมารับสิ รับแล้วคุยสิ เขาก็งง เขาก็ทำไม่ถูกควรจะรับหรือจะทำยังไง พอรับปุ๊บก็พูดไม่ถูก ก็เงียบๆ เหมือนกับว่าเด็ก 6 ขวบเนี่ยเขาไม่รู้หรอกว่าจะคุยอะไร บางทีเขาก็ยังงงๆ ทางฝั่งนู้นก็ถามมา เป็นยังไงถึงบ้านหรือยัง อะไรอย่างนี้ ก็บอกว่า “ถามเพื่อนสิมีอะไร โทรมามีอะไรก็คุยไป แล้วเด็กมันก็เงียบ ทั้ง 2 คนต่างฝ่ายต่างเงียบ “ไม่มีอะไรคุยก็วางไป เออ แค่นี้แหละ บอกเพื่อนแค่นี้แหละ วางไปแล้วพอทั้งหมดนี่จบปุ๊บก็แบบ เฮ้ย...เหมือนเพิ่งได้ยินตัวเองว่าแบบ เรานี่หวงลูกสาวนี่หว่า มันอัตโนมัติครับ ไม่รู้ตัวเลย  คือแค่จะแบบว่า จะโทรมาทำไมวะ ไม่มีอะไรก็วางไปดิ แต่แบบว่าเสียงที่ออกไปมันกลับคือ เข้มมาก

มีลูกสาว 2 คนแล้ว อยากจะมีลูกชายอีกไหม ?
เคยคิดครับ เคยคิดว่าอยากจะมีลูกชาย ก็เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วก็ไปปรึกษาคุณหมอ แต่ว่ามันไม่ได้เขาไม่มา ถ้าเขามาเองโดยธรรมชาติก็โอเคครับ เรื่อยๆแล้วแต่ ช่วงนี้ก็ฝากละครด้วยนะครับ ฝากรีสอร์ตที่จังหวัดตรังครับ ชื่อ ปากเมง รีสอร์ท ของที่บ้านแฟน ตรงนั้นมันชื่อหาดปากเมง ก็ไปเที่ยวได้ ไปพักได้ครับที่ จังหวัดตรัง ครับผม