นายกรัฐมนตรี เผย ครม. สัญจรอนุมัติโครงการประกันรายได้ข้าว ยางพารา วงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่โรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ท ไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 3/2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการอนุมัติแผนงานโครงการ การใช้งบฟื้นฟู ซึ่งขณะนี้ได้ลงไปทุกจังหวัดแล้ว และจะขยายลงไปสู่ระดับพื้นที่ ทั้งอำเภอ ตำบล เพื่อพยุงเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ และระดับฐานราก ให้มาก จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน ทำให้บ้านเมืองสงบ เพื่อที่จะได้บริหารกิจการต่างๆเหล่านี้ต่อไปได้ สำหรับมาตรการการเงินการคลังและภาษี รัฐบาลจะทยอยดำเนินการให้ โดยต้องดูถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับรายได้ของรัฐ เพราะงบประมาณที่นำมาใช้แก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะหาวิธีทางดำเนินการในสิ่งที่เร่งด่วนให้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบโครงการสำคัญของรัฐบาล ในการช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง และเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ดังนี้ อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 และ โครงการประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563 ถึง 2564 รอบที่ 1 ประกอบด้วยมาตรการอื่นๆ รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 61,193.96 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการประกันรายได้ยาง วงเงิน 10,042 บาท 2.โครงการประกันรายได้ข้าวและ มาตรการคู่ขนาน วงเงิน 51,248.14 ล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการจัดสรรและปรับงบประมาณเพื่อให้มีวงเงินเพียงพอและในอนาคตต้องหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อดูแลพี่น้องเกษตรกรในพืชหลัก 6 ชนิด รวมทั้งพิจารณาการทำนาปีนาปรังในวงรอบต่อไปด้วย ในส่วนการช่วยเหลือชาวสวนยางครั้งนี้จะทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเกิดความมั่นใจ ในการประกอบอาชีพ และลด ความเสี่ยง ในการ ขาดรายได้ในการปลูกยาง โดยรัฐบาลจะมีการดูแลทั้งในส่วนของเจ้าของสวนยางและคนกรีดยางไปด้วย
ครม.อนุมัติ 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการประกันรายได้ เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวรอบที่ 1 วงเงิน 18,096 ล้านบาท 2) มาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าว เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว วงเงิน 5,105.26 ล้านบาท 3) โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ พัฒนาคุณภาพ ผลผลิต เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 63 และ 64 วงเงิน 28,046.82 ล้นบาท
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรทุกคน สิ่งสำคัญจะช่วยกันอย่างไรในอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณมากจนเกินไป
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการเสริมที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการระหว่างรัฐและประชาชนช่วยกันโดยในระยะต่อไปอาจจะมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมมือด้วย รวมทั้งรัฐบาลจะหามาตรการที่เหมาะสมในการสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกคน โดยใช้กลไกการบริหารงานปกติ และกลไกรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา รวมถึงกระบวนการยุติธรรม ต้องยึดมั่นไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนในประเทศด้วย