น้ำโขงลดต่ำ พันโขดแสนไคร้โผล่พ้นน้ำสวยงาม

2020-11-03 21:10:34

น้ำโขงลดต่ำ พันโขดแสนไคร้โผล่พ้นน้ำสวยงาม

Advertisement

น้ำโขงลดต่อเนื่องจนมีระดับต่ำ ทำให้ “พันโขดแสนไคร้” หรือ แกรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง ในเขต อ.สังคม จ.หนองคาย โผล่ให้เห็นสวยงาม เป็นระยะทางยาวตามแม่น้ำโขงกว่า 5 กิโลเมตร เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ชม

จากระดับน้ำโขงที่มีลดลงจนระดับต่ำ ทำให้โขดหินโผล่ขึ้นจากแม่น้ำโขง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่นับพัน ๆ โขด ตั้งแต่เขตบ้านห้วยค้อ , บ้านหนอง , บ้านภูเขาทอง ,บ้านม่วง และบ้านตาดเสริม ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เป็นบริเวณกว้างประมาณ 300 เมตร ระยะทางยาวตามแม่น้ำโขงมากกว่า 8 กม. ซึ่งระดับน้ำในขณะนี้ถือเป็นช่วงที่พันโขดแสนไคร้เริ่มมีความสวยงาม สายน้ำไหลผ่านรอยต่อของโขดหินแต่ละก้อน โขดหินที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่ของแต่ละบ้านจะมีความแตกต่างกัน คือในเขตของบ้านม่วงและบ้านตาดเสริม จะมีลักษณะการเกิดขึ้นของโขดหินแต่ละโขดห่างกัน พอเข้าเขตบ้านภูเขาทอง โขดหินก็จะถี่ขึ้น ส่วนโขดหินในเขตของบ้านหนอง ก็จะมีลักษณะคล้ายสวนหย่อม เป็นโขดเล็ก ๆ และมีหาดทราย และสุดท้ายในเขตของบ้านห้วยค้อ จะมีโขดหินน้อย แต่มีพื้นที่ที่เป็นหาดทรายมากกว่าทุกจุด และมีต้นไคร้มากกว่าทุกจุด ในขณะที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางผ่านเส้นทาง อ.สังคม จ.หนองคาย – อ.ปากชม จ.เลย ส่วนใหญ่ต่างหยุดรถชมความงามและถ่ายรูปความสวยงามของพันโขดแสนไคร้ ก่อนเดินทางต่อ

สำหรับการท่องเที่ยวที่พันโขดแสนไคร้นั้น หากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสความงามของโขดหินต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวต้องมาขึ้นเรือที่จุดจอดเรือจุดผ่อนปรนตำบลบ้านม่วง หรือที่จุดจอดเรือบ้านภูเขาทอง ต.บ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากกระแสน้ำบางช่วงมีความเชี่ยว ขณะนี้ชาวบ้านที่มีเรือได้รวมตัวกันนำเรือหางยาวไว้รองรับนักท่องเที่ยว โดยเรือแต่ละลำสามารถนั่งได้ 4-5 คนตามน้ำหนักของผู้โดยสาร ในแต่ละเที่ยวจะล่องเรือใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตร




ชื่อพันโขดแสนไคร้นี้ มีความเป็นมาเนื่องจาก ในแต่ละโขดหินก็จะมีต้นไคร้ขึ้นอยู่โดยทั่ว ๆ ไปนับแสน ๆ ต้น จึงได้มีการตั้งชื่อว่า “พันโขดแสนไคร้” ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาท่องเที่ยวหลายคนได้ยกให้เป็น “แกรนค์แคนยอน กลางแม่น้ำโขง”  หินที่โผล่มีหลายหลากสี โดยเฉพาะหินสีดำนิล ที่มีความมันวาว แข็งแกร่ง และสวยงาม อีกทั้งยังมีหนองปลาบึก ที่หมู่ 3 บ้านหนอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม ที่เป็นหนองน้ำในแม่น้ำโขง ท่ามกลางโขดหินล้อมรอบ ส่วนอีกฝากหนึ่งคือฝั่ง สปป.ลาว ก็มีภูเขาเป็นเหมือนฉากหลัง มองไกล ๆ เหมือนสวนหย่อมที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ที่นักท่องเที่ยวเริ่มจะรู้จักและเดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้นเรื่อย ๆ

นายศิริศักดิ์ เบ้าแก้ว นายก อบต.บ้านม่วง บอกว่า ความงามของพันโขดแสนไคร้ เกิดจากก้อนหินที่โผล่พ้นน้ำโขงขึ้นมานับพัน ๆ ก้อน แต่ละก้อนก็จะมีลักษณะและมีความหมายแตกต่างกันไป ซึ่งพันโขดแสนไคร้จะเริ่มจากน้ำโขงบริเวณบ้านตาดเสริม บ้านม่วง บ้านภูเขาทอง บ้านหนอง และบ้านห้วยค้อ ระยะทาง 8 - 9 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ลงจากการชมทะเลหมอกแล้วทั้งที่ภูห้วยอีสัน และที่ภูหนอง เมื่อเสร็จจากการชมทะเลหมอกแล้วสามารถมาชมพันโขดแสนไคร้ ซึ่งจุดที่มีความสะดวกในการจอดรถคือที่หนองปลาบึก บ้านหนอง ที่ขับรถมาไม่กี่นาทีก็ถึง ส่วนชื่อ พันโขดแสนไคร้ นั้น นายสุชัย ตั้งชูพงศ์ อดีตนายอำเภอสังคม เป็นผู้ที่ตั้งชื่อนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีโขดหินนับพัน ๆ โขด และที่โขดหินก็มีต้นไคร้เกิดขึ้นนับแสนต้น



นายก อบต.บ้านม่วง กล่าวอีกต่อไปว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องเรือไปสัมผัสความงามของพันโขดแสนไคร้อย่างใกล้ชิด ก็จะมีชาวบ้านรวมตัวกันนำเรือออกมาให้บริการ จุดที่มีความพร้อมที่สุดคือ ที่จุดจอดเรือจุดผ่อนปรนบ้านม่วง มีเรือไว้บริการประมาณ 10 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพที่ อบต.บ้านม่วงและกรมเจ้าท่าให้การสนับสนุนกว่า 100 ตัว ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ทุกคนก่อนล่องเรือ ซึ่งจะใช้เวลาในการล่องเรือไป-กลับ รวมทั้งจอดแวะให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำโขงบนหาดทรายที่มีความปลอดภัย ชมความงามและถ่ายรูปที่ระลึก ก่อนล่องเรือกลับเส้นทางเดิม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนอัตราค่าบริการล่องเรือ 1 ลำ จะให้นั่งไม่เกิน 4 – 5 คน ค่าบริการ 350 บาท