ญาติหลั่งน้ำตารับศพ “บังบัส” เอเย่นต์ค้ายาถูก ตร.วิสามัญฯ ร้อง ตร.ทำเกินกว่าเหตุ

2020-11-03 16:20:05

ญาติหลั่งน้ำตารับศพ “บังบัส” เอเย่นต์ค้ายาถูก ตร.วิสามัญฯ ร้อง ตร.ทำเกินกว่าเหตุ

Advertisement

ญาติหลั่งน้ำตารับศพ “บังบัส” เอเย่นต์ค้ายานรก 3 หมายจับที่ถูกตำรวจวิสามัญ ฯไปฝังตามประเพณีอิสลาม-ผู้การ ฯ สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย น้องสาวคนตายแฉพี่ชายชูมือยอมจำนนและไหว้ขอชีวิตแต่ไร้ความปราณีจากตำรวจลั่นกระสุนสังหารโหด ด้านตำรวจยืนยันเป็นเหตุสุดวิสัยยิงป้องกันตัว

วันที่ 3พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญฆาตกรรม นายเจริญศักดิ์ หรือ "บังบัส" อายุ 31 ปี โดยอ้างว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดเสียชีวิต เหตุเกิดในสวนยางพารา หมู่ 3 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช สภาพนายเจริญศักดิ์ หรือ "บังบัส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้อง 1 นัด โดยชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากไม่พอใจเพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะผู้ตายมีเพียงมีดพร้าขนาดเล็กในมือเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมีด้วยกันนับ 10 นาย หลังเกิดเหตุญาติ ๆ ของผู้ตายและชาวบ้านได้ปิดล้อมเจ้าหน้าที่นานกว่า 2 ชั่วโมงท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด

ความคืบหน้าล่าสุด ญาติได้นำร่างของนายเจริญศักดิ์ หรือ “บังบัส” ไปทำพิธีฝังตามศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์ไทรสุวรรณ หมู่ 3 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ท่ามกลางญาติพี่น้องที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.สงบ จันทร์สิงห์ ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดมาร่วมพิธีด้วย ในขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยญาติคนหนึ่งได้นำมีดพร้าขนาดเล็กที่นายเจริญศักดิ์ หรือ “บังบัส” ถืออยู่ตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมมาบอกว่า “นี่คืออาวุธมีดพร้า ไม่ใช้มีดสปาต้าตามที่เขาให้ข่าว”




ในขณะที่ น.ส.เมนี่ รัชพูมาด อายุ 26 ปีน้องสาวของนายเจริญศักดิ์ กล่าวว่า ในขณะตำรวจเข้าจับกุมนายเจริญศักดิ์ พี่ชายได้ชูมือทั้ง 2 ข้างและยกมือไหว้ขอชีวิตแล้วแต่ตำรวจยังยิงจนเสียชีวิตอย่างโหดร้าย ทางครอบครัวยืนยันจะดำเนินคดีกับตำรวจที่ยิงนายเจริญศักดิ์ พี่ชายจนถึงที่สุด วันนี้หลังจากมีการส่งศพไปผ่าหัวกระสุน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ตนและครอบครัวได้ติดต่อขอรับศพ กลับมาประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์ โดยหลังจากนี้ตนและญาติ ๆ เตรียมทำเรื่องขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตจนถึงที่สุด เพราะมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ พี่ชายตนไม่มีอาวุธร้ายแรงมีเพียงมีดพร้าเล่มเล็ก ๆ เท่านั้น และยังชูมือยอมจำนนแล้ว แต่ตำรวจยังแสดงความป่าเถื่อนยิงพี่ชายตนจนตาย โดยตนและญาติ ๆ ยังเห็นกับตาว่าตำรวจใช้เท้าเขี่ยศีรษะพี่ชาย อย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งถือว่าเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช ระบุว่าก่อนหน้านี้ นายเจริญศักดิ์เคยก่อเหตุขับรถแหกด่านและยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในขณะตำรวจเข้าจะเข้าตรวจสอบและจับกุม และครั้งหลังสุดที่ ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในขณะเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมยาเสพติดนายเจริญศักดิ์ ก็ยิงใส่ตำรวจเปิดทางหลบหนีออกมาได้ โดยเหตุการณ์ที่ตำรวจกระทำวิสามัญฆาตกรรมนายเจริญศักดิ์ หรือ “บังบัส” ในครั้งนี้เพราะขณะเข้าจับกุม นายเจริญศักดิ์ ผู้ตาย พยายามจะวิ่งไปเอาปืนในรถ แต่ไม่ทันการณ์เพราะตำรวจบุกชาร์จไปติด ๆ จึงตัดสินใจหยิบมีดพร้าก่อนจะวิ่งหลบหนีโดยมีตำรวจ 5 นายที่วิ่งไล่ไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร หากตำรวจคิดจะยิงจริง ๆ คงไม่วิ่งไล่ไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะตำรวจเองก็ต้องการจับเป็นเพื่อนำตัวมาขยายผลถึงเครือข่ายที่มีอีกจำนวนมาก แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมให้จับกุมและหันกลับมาใช้อาวุธมีดพร้าฟันใส่ตำรวจอย่างไม่ยั้งจนตำรวจได้รับบาดเจ็บไป 1 นาย ตำรวจสุดวิสัย จึงต้องป้องกันตัวโดยยิงใส่ 1 นัด ที่บริเวณท้อง ทำให้นายเจริญศักดิ์ หรือบังบัส” เสียชีวิตดังกล่าว และเมื่อญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนกรูกันมาปิดล้อมตำรวจที่มีเพียง 5 นาย ตำรวจจำเป็นต้องรักษาสถานที่ไม่ให้ชาวบ้านหรือญาติเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุ เพราะอาจจะทำลายหลักฐาน ชุดจับกุมขอยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ



พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่านายเจริญศักดิ์ หรือ “บังบัส” เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับถึง 3 คดี ประกอบด้วยคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด คดีพยายามฆ่าโดยใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคดีอาวุธปืน อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตนได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งว่าชุดจับกุมที่อ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจริงหรือไม่ และตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน