ศาลสั่งปรับ "ทนายอานนท์" ฉายโฮโลแกรม 600 บาท

2020-11-02 18:10:32

ศาลสั่งปรับ "ทนายอานนท์" ฉายโฮโลแกรม 600 บาท

Advertisement

ศาลสั่งปรับ "อานนท์" ฉายโฮโลแกรม 600 บาท ส่วนผู้ร่วมอุดมการณ์อีก 6 รายโดนปรับคนละ 500 บาท    

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. มีรายงานจากศาลแขวงดุสิต ว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นายอานันท์ ลุ่มจันทร์, นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ, นายเอฐ์เรียฐ์ ฟอฟิ และนายปิยรัฐ จงเทพ กลุ่มแกนนำและผู้ชุมนุมคณะราษฎร ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 1-7 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.จราจรทางบก โดยจำเลยทั้ง 7 ให้การรับสารภาพ

โดยศาลแขวงดุสิต บรรยายคำพิพากษา ว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2563 จำเลยที่ 1-7 ร่วมกันกางจอภาพสีขาวที่มีเสาอยู่ด้านข้าง มีการวางหมุดคณะราษฎรลงบนทางเดินรถ และวางเครื่องฉายโฮโลแกรมบนทางเท้าถนนราชดำเนินกลาง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กทม. จากนั้นฉายโฮโลแกรมซึ่งเป็นประกาศของคณะราษฎร ลงบนจอภาพดังกล่าวซึ่งมีข้อความว่า "ลบยังไง ก็ไม่ลืม" การกระทำดังกล่าวถือเป็นการตั้ง วาง กองวัตถุ หรือสิ่งของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ บนถนน ซึ่งมีลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร อีกทั้งจำเลยทั้ง 7 ไม่ได้รับอนุญาต และกระทำโดยไม่มีเหตุจำเป็นอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างไรก็ตามจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพว่าได้ทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อชี้แจง แนะนำ แสดงความคิดเห็นให้กับประชาชนจริง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนทำการโฆษณาอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร




ศาลจึงพิพากษาจำเลยที่ 1 ซึ่งมีความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ฐานร่วมกันตั้ง วาง กองวัตถุใดๆ บนถนนโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันตั้งวางกองวัตถุใดๆ บนถนนโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นบทหนักสุด พร้อให้ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 1,000 บาท และปรับอีก 200 บาทฐานใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 1,200 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 600 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-7 มีความผิดฐานร่วมกันตั้ง วาง กองวัตถุใด ๆ บนถนนโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันตั้งวางกองวัตถุใดๆ บนถนนโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงสั่งปรับจำเลยที่ 2-7 คนละ 1,000 บาท แต่จำเลยทั้ง 6 คนให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยที่ 2-7 คนละ 500 บาท