นายกฯตรวจเยี่ยมสนามบินภูเก็ตเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว

2020-11-02 18:25:08

นายกฯตรวจเยี่ยมสนามบินภูเก็ตเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว

Advertisement

นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมสนามบินภูเก็ต เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว เผยทุกระบบมีความพร้อม ย้ำปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

เมื่อเวลา 15.00 น.  วันที่ 2 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อม ครม. เดินทางมายังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ​ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยมี​ ร.ต.ธานี ช่วงชู​ ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต​ นพ.ธนิศ เสริมแก้ว​ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ผอ.ตรวจคนเข้าเมืองจ.ภูเก็ต ผู้บริหารและพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต​ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการปฏิบัติเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามกระบวนการคัดกรองผู้โดยสารของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ​ พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการเก็บสิ่งตรวจ (สารคัดหลั่ง) เพื่อรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว นักธุรกิจกลุ่มพิเศษ (STV) ตามนโยบายรัฐบาลที่จะผ่อนคลายมาตรการให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้มากขึ้น อีกทั้ง​หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย​ และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงสนามบินจังหวัดภูเก็ต จะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ ลงทะเบียน ตรวจหาเชื้อ และเก็บสิ่งส่งตรวจห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019​ จากนั้น​ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมรถพระราชทาน ที่มาประจำ​ ณ​ อาคาร X-Terminal​ ที่สามารถทำสวอพได้ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะต้องเข้ารับการตรวจ และพักคอยผลการตรวจเป็นเวลา 90 นาที หลังจากเก็บตัวอย่างตรวจแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้รับการเคลื่อนย้ายไปยังที่พัก ALQ โดยยานพาหนะและเส้นทางที่กำหนด ที่เป็นระบบปิดอยู่ในระบบควบคุมสังเกตตลอดเวลา ส่วนมาตรการป้องกันควบคุมโรคอื่น ๆ ​ท่าอากาศยานภูเก็ตจะเน้นเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม การจัดจุดแอลกอฮอล์ล้างมือ และการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายทุกประตูทางเข้าออก และตั้งหน่วยทีมแพทย์พยาบาลในการติดตามอาการที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ซึ่งหากพบว่านักท่องเที่ยวติดโควิด-19 สัมผัส เดินผ่าน ภายในท่าอากาศยาน จะต้องกักตัวพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดทันทีและให้หยุดทำงานที่บ้าน พร้อมเฝ้าดูอาการ 14 วัน​

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า การคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกขั้นตอน ทุกระบบมีความพร้อมแล้ว โดยเฉพาะกระบวนการเก็บสารคัดหลั่งและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาแล้วระบบคัดกรองต้องใช้ได้ผล ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มอัตราการผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น โดยรัฐบาลเร่งฟื้นฟูการนำคนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ นอกจากนี้ มีการจัดที่พักโรงแรมต่าง ๆ ที่เพียงพอและมีราคาที่เหมาะสม อีกทั้งมีสถานที่กักตัวทางเลือก ซึ่งเป็นกระบวนการของการกักกันโรคที่โรงแรมหลายแห่งจะรองรับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเฝ้าดูอาการ 14 วัน​ ซึ่งทำให้ผู้ที่กักตัวมั่นใจได้ว่าจะได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยสามารถควบคุมโรคนี้ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่มีการคัดกรองและกักกันโรคผู้เดินทางจากต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยขอให้ทุกคนฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ได้ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยอีกครั้ง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางโดยขบวนรถยนต์ไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง​ ก่อนออกเดินทางไปประชุมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว ณ โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ตต่อไป