"หมอยง" เตือนผู้ปกครองระวังลูกหลานชั้น "อนุบาล" ติดเชื้อ RSV ชี้อาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yong Poovorawan" ถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ว่า เชื้อไวรัส RSV ยังพบว่ามีการระบาดอย่างมากในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยสายพันธุ์ที่พบในปีนี้เป็น RSV-A ทั้งหมด ซึ่งต่างกับปีที่แล้ว คือ พบทั้ง 2 สายพันธุ์คือ A และ B สำหรับสายพันธุ์ย่อยของ A ที่พบ จะเป็น ON1 โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้แล้วเป็นอีกได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อปีที่แล้วมีการระบาด พอมาปีนี้ก็มีโอกาสเป็นได้อีก สำหรับการระบาดเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ โดยมากพบในเด็กอนุบาลตั้งแต่เดือน ก.ย.จนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มของโรคยังไม่ลดลง
ศ.นพ.ยง ระบุอีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับทุกปี ปีนี้จะมีการระบาดช้ากว่า โดยอาการสำคัญ คือ มีไข้ และมีอาการของระบบทางเดินหายใจ เด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV มักมีอาการอักเสบของหลอดลมทำให้หายใจเร็วหรือหอบ ส่วนเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี จะมีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย สำหรับโรคนี้ไม่มียารักษา จะรักษาตามอาการ และหายได้เอง ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการป้องกันดีที่สุด คือ ดูแลเรื่องสุขอนามัยในเด็กเล็ก อาทิ การล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก รวมถึงผู้ใหญ่เพราะเกิดได้กับทุกวัย แต่ในเด็กเล็กจะมีอาการมากกว่า ดังนั้นทุกคนควรดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคไปสู่เด็กเล็ก ส่วนการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาล เด็กที่ป่วยหรือไม่สบายเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจไม่ควรไปโรงเรียน เด็กอนุบาลที่อยู่รวมกัน ครูอาจารย์ควรดูแลสุขอนามัยโดยเฉพาะสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี ทำความสะอาดเครื่องใช้ของเล่นอยู่เป็นประจำ ถ้ามีการระบาดหรือมีผู้ป่วยหลายรายควรปิดชั้นเรียนทันที