“พิธา”นำทีมสัญจรแม่สาย ตั้งวงถกปัญหาราคาข้าว-กาแฟ

2020-10-31 21:15:01

“พิธา”นำทีมสัญจรแม่สาย ตั้งวงถกปัญหาราคาข้าว-กาแฟ

Advertisement

“พิธา”นำทีมก้าวไกลสัญจรแม่สาย ตั้งวงถกปัญหาราคาข้าว กาแฟ ชูอัตลักษณ์ชุมชนเสริมท่องเที่ยว กระตุ้นยกระดับการค้าชายแดนไทย- พม่า 

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะร่วมเดินทางในโครงการก้าวไกลสัญจรภาคเหนือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรับฟังปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และเเลกเปลี่ยนความรู้การพัฒนาเกษตรยุคใหม่ รวมถึงมองหาช่องทางการพัฒนาเศรษฐกิจกาแฟ ในพื้นที่บ้านผาฮี้ อ.เเม่สาย จ.เชียงราย พร้อมกันนั้นยังได้เดินทางไปศึกษาและสำรวจอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยมี นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย เขต 6 พื้นที่เเม่สาย เชียงแสน ดอยหลวง และทีมงานให้การต้อนรับ 

นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากคนเชียงรายกว่า 160,000 คะเเนน ทำให้ได้ ส.ส.เขต มาถึง 2 คน คือ เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 เเละ พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย เขต 6 ซึ่งทั้งสองทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับคนเชียงรายเป็นอย่างดีให้ได้ ในวันนี้จึงตั้งใจเดินทางมากว่า 600 ก.ม. เริ่มต้นที่พิจิตร พิษณุโลก และมาถึงอ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อมาขอบคุณและรับฟังปัญหาจากพื้นที่เพื่อให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะนำไปผลักดันตามกลไกของรัฐสภา


" กิจการการค้าไทย - ชายแดนพม่า เป็นอัตลักษณ์ของแม่สาย ในฐานะที่เป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติ เเละสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมทำงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จึงยินดีที่จะรับเรื่องเเละประสานงานสนับสนุนให้อุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนได้เป็นอุทยานแห่งชาติในอนาคต”นายพิธา กล่าว

ทั้งนี้ ในระหว่างการแลกเปลี่ยนข้อมูล นายพิธา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการเปลี่ยนให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ดินบริเวณโดยรอบจะได้รับผลกระทบเรื่องสิทธิทำกินหรือไม่ ซึ่งผู้อำนวยการอุทยานถ้ำหลวงยืนยันว่ากรณีนี้จะไม่เกิดขึ้น โดยเห็นด้วยให้อุทยานแห่งชาติประกาศเป็นป่าอนุรักษ์เพื่อป้องกันการรุกล้ำของนายทุนในการสร้างที่พักอาศัย หรือโรงเเรม  ในส่วนปัญหาราคาข้าวและใบยาสูบ พิธา กล่าวว่า การแก้ปัญหาด้วยการประกันราคาเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น ขณะที่การทำงานร่วมกันของโรงสีในพื้นที่ยังไม่ได้เอื้อต่อชุมชน มีการกดทับ เอาเปรียบตนจะนำเรื่องนี้ประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียนถามว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่กำลังมีขึ้น จะมีเรื่องประกันราคาข้าว เข้าสู่การพิจารณาด้วยหรือไม่ 

“ผมอยากให้พี่น้องชาวนาในประเทศไทยรวมถึงเชียงราย ลืมตาอ้าปากด้วยตนเอง อยากให้มีพื้นที่วัดความชื้นด้วยตนเอง ไม่ต้องอาศัยโรงสีที่เอาเปรียบพี่น้องประชาชน เเละจะทำอย่างไรให้สินค้าโภคภัณฑ์ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน การเข้าถึงน้ำ เข้าถึงที่ดินเป็นหน้าที่ของรัฐ เเต่ความฝันของผมหากได้เป็นรัฐบาล หรือได้เป็น รมว.เกษตรฯ ผมอยากเห็นชาวนาของผม มีข้าวส่งออกด้วยตนเอง หากเรารวมตัวกัน เเละกฎหมายเอื้อ เราจะสามารถปลูกข้าว ส่งออกข้าว เเละยกระดับสินค้า โดยแก้ไขปัญหาตั้งเเต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ สิ่งสำคัญคือการรับฟังปัญหาในวันนี้ ผมจะนำปัญหาของพี่น้องประชาชนผลักดันในคณะกรรมาธิการการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาเเละเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ยืนยันว่า เวลานี้ถึงแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่อาจทิ้งพื้นที่ ทิ้งปัญหาของประชาชนได้ พรรคก้าวไกลจะพูดคุยเรื่องปัญหาปากท้องประชาชน ทั้งแง่มุมเศรษฐกิจเเละสังคมไปพร้อมกันเพื่อนำไปผลักดันต่อในรัฐสภา ถ้าว่ากันที่ฝีมือ ชาวนาไทยเราไม่เเพ้ชาวนาเวียดนาม เเต่มันมีเรื่องต้นทุนโครงสร้าง ค่าเช่าวันละ 3,000 รถไถวันละ 800 ค่าน้ำประมาณไร่ละ 1,000 ผมต้องการให้รัฐบาลช่วยในด้านต้นทุนโครงสร้าง เเละต้องการให้รัฐมีการเยียวยาพักชำระหนี้สินจากหลังวิกฤติไวรัสโคโรนา 2019 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยไม่มีโฉนดถือครอง ซึ่งเป็นปัญหาต่อการได้รับเงินเยียวเเละชดเชยจากรัฐบาล ก็จะนำปัญหานี้ไปสู่การแก้ไขเพื่อพี่น้องชาวเชียงรายอย่างเต็มที่

สำหรับการเดิรทางไปบ้านผาฮี้ นายพิธา ระบุว่า กาแฟไทยมีศักยภาพพอสมควร ทั้งประเทศผลิตได้ประมาณ 25,000 ตันต่อปี แต่การบริโภคของคนในประเทศมีมากกว่า 98,000 ตัน ต่อปี ปัญหาส่วนใหญ่ของคนในพื้นที่คือปัญหาด้านการคมนาคม ซึ่งหากทำให้การสัญจรมาที่บ้านผาฮี้ได้สะดวก ก็จะสามารถเสริมเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ชาวบ้านผาฮี้ส่วนใหญ่ เป็นชาวอาข่าประกอบอาชีพทำโฮมสเตย์และปลูกกาแฟ ซึ่งเจ้าของกิจการเป็นคนในพื้นที่ทั้งหมด หากสามารถแปรรูปกาแฟและเพิ่มกาแฟพิเศษ หรือ Speacialty ออกมาก็จะเพิ่มมูลค่าผ่านอัตลักษณ์ชุมชนด้วย เป็นการแก้ปัญหาจากต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำไปพร้อมกัน

ด้าน นายพีรเดช กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงในการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของ จ.เชียงราย เเละของประเทศ มีประชาชนให้ความสนใจกว่า 2 ล้านคน จากเดิมเพียง 40,000 คนต่อปี  การท่องเที่ยว อ.แม่สาย ถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งบ้านผาหมีเเละบ้านผาฮี้ ที่ได้รับความนิยมจากการปลูกกาแฟ เเละการแปรรูปกาแฟ ปัจจุบันมีการสร้างที่พักเเละโฮมสเตย์ของคนในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การยกระดับกาแฟในพื้นที่จะเป็นการสร้างอัตลักษณ์ให้กับผู้คนในพื้นที่ ในส่วนอุทยานถ้ำหลวงนั้น มองว่าสามารถพัฒนาเป็นศูนย์การช่วยเหลือด้านการกู้ภัย เเละถอดบทเรียนในระดับโลก เพื่อผลักดันเเละบูรณาร่วมกัน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต

นายพีรเดช ยังกล่าวด้วยว่า ได้ผลักดันในเรื่องการให้สัญชาติกับพี่น้องกลุ่มชนชาติพันธุ์ ในการดูแลให้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึงเเละเท่าเทียม รวมถึงการออกบัตรประชาชน โดยมีการผลักดันผ่านกลไกในคณะกรรมาธิการการปกครองทำให้เชียงรายเป็นจังหวัดที่ออกสิทธิมากที่สุด และในสัปดาห์หน้าเมื่อเปิดสภา ได้เตรียมตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับกรณีการประกันราคายาสูบ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐสภา เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรยาสูบ จ.เชียงรายและภาคเหนือ

สำหรับเวทีการรับฟังปัญหาประชาชนของพรรคก้าวไกลวันนี้ มีประชาชนจาก บ้านสันทรายมูล และ บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าร่วมสะท้อนปัญหาราคาข้าว ยาสูบเเละกาแฟมากกว่า 500 คน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมทีมงานยังได้ไปศึกษาดูงานแปลงปลูกผักชีไฮโดรโปนิกส์ บริเวณบ้านแสงภูผา และร่วมชิมกาแฟดริปจากกาแฟเมล็ดพิเศษจากบ้านผาฮี้ จากนั้นในช่วงเย็นได้ไปร่วมงานลอยกระทงบริเวณ ตลาดนัดหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 

สำหรับกำหนดการในวันพรุ่งนี้ ( 1 พ.ย.) คณะก้าวไกลสัญจรจะเดินทางต่อไปยัง อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อเสวนาเศรษฐกิจการเกษตรเชียงราย เรื่อง ข้าว กาแฟ และสับปะรด