ตร.คุม"เสี่ยโป้"ฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว

2020-10-29 14:10:55

ตร.คุม"เสี่ยโป้"ฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว

Advertisement

ตร. คุมตัว "เสี่ยโป้" ฝากขัง "ศาลอาญาธนบุรี" พร้อมคัดค้านประกันตัว อ้างเหตุคดีมีอัตราโทษสูง

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. พนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ คุมตัวนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ฝากขังผัดแรก หลังพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาตามที่ศาลอนุมัติหมายจับ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง โดยระหว่างถูกควบคุมตัว เสี่ยโป้ ยืนยันว่าได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะตนเองไม่มีอาวุธปืน และไม่ได้ยิงใครในขณะเกิดเหตุ พร้อมมองว่าการดำเนินคดีกับตนนั้นไม่เป็นธรรม เนื่องจากตำรวจรับฟังข้อมูลเพียงคำให้การของฝ่ายคู่กรณีแล้วมาดำเนินคดีกับตน






ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีพยานเหตุการณ์ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นรวมทั้งหมด 5 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การในฐานะพยานที่เห็นเหตุการณ์ โดยพยานที่เป็นหญิงวัยรุ่น 3 คน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังไปซื้อลูกชิ้นปิ้งใกล้กับร้านนวด สังเกตเห็นรถและกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากเข้าไปบริเวณลานจอดรถ จากนั้นไม่นานเริ่มมีคนชกต่อยกันแล้วมีคนวิ่งเข้าไปหาฝั่งเสี่ยโป้ ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น พวกตนจึงวิ่งหนีเอาตัวรอด ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดคล้ายมีคนยิงสวนกัน ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงบ้าง แต่จากข้อมูลที่มีการนำเสนอข่าวซึ่งมีภาพถ่ายของคนที่ระบุว่าเป็นเสี่ยโป้ ยืนยันว่าคนนั้นไม่ได้ยิงหรือจ่อยิงตามที่มีคนให้สัมภาษณ์ ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่รู้จักกับเสี่ยโป้ เพียงแต่เห็นว่าการให้ข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง จึงตัดสินใจพากันมาให้การในฐานะพยาน






ขณะที่วัยรุ่นชายอีก 2 คน เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนอยู่ในกลุ่มคู่กรณีของเสี่ยโป้ โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้จักและไม่ได้ต้องการออกมาปกป้องเสี่ยโป้ โดยวันเกิดเหตุ ตนทราบข่าวจากเพื่อนว่ามีการนัดท้าต่อยกับคนของเสี่ยโป้ จึงตามไปสังเกตการณ์ แม้จะไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง แต่ยืนยันได้ว่าเสี่ยโป้ ไม่ใช่คนยิง เพราะในมือไม่มีปืน อีกทั้งยังยืนห่างจากจุดเกิดเหตุ และสิ่งที่ตนเองเห็น คือ เสี่ยโป้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่วิ่งหนีตาย และเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ยิง ส่วนที่ตนตัดสินใจออกมาให้การ เพราะเห็นว่าผู้ได้รับบาดเจ็บพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยืนยันว่า การฝากขังดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาจนครบทั้งหมดแล้ว จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจครบ 48 ชั่วโมง จึงควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ส่วนเรื่องการประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลซึ่งจะเป็นผู้พิจารณา