โควิด-19 รุนแรงรอบ 2 ฝรั่งเศสและเยอรมนีล็อคดาวน์อีก

2020-10-29 07:15:04

โควิด-19 รุนแรงรอบ 2 ฝรั่งเศสและเยอรมนีล็อคดาวน์อีก

Advertisement


ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศมาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 อย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งภายใต้มาตรการใหม่ดังกล่าวที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันศุกร์นี้ ประชาชนต้องพักอยู่กับบ้าน จะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเฉพาะไปทำภารกิจที่จำเป็น เช่นออกไปซื้อสินค้าเพื่อยังชีพ หรือเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น และออกกำลังกายได้วันละ 1 ชั่วโมง ส่วนธุรกิจที่ไม่จำเป็น เช่นร้านอาหารและบาร์ จะปิดให้บริการ แต่โรงเรียนและโรงงานต่าง ๆ จะยังคงเปิดเหมือนเดิม

จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 รายวันในฝรั่งเศส พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันอังคาร มีผู้ติดเชื้อรายวัน 33,000 คน ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า ฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่จะถูกท่วมทับจากการระบาดของไวรัสในรอบ 2 ซึ่งไม่ต้องสงสัย เพราะจะหนักกว่าการระบาดรอบแรกด้วย



สำหนับผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ อยู่ที่ 1,279,384 คน และเสียชีวิตแล้ว 35,820 คน

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืนในหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งประชาชน 46 ล้านคนในฝรั่งเศสด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคนหนึ่งแสดงความไม่พอใจว่า พวกเขาล้มเหลวในการหยุดยั้งปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มาตรการควบคุมโควิดจะใช้ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม และจะมีการประเมินทุก ๆ 2 สัปดาห์ ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า เขายังคงมีความหวังว่า ครอบครัวชาวฝรั่งเศส จะสามารถรวมตัวพบปะสังสรรค์กันได้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส



ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี แถลงว่า เยอรมนีต้อง “ดำเนินการทันที” และเรียกร้องให้ใช้ความพยายามครั้งใหญ่ทั่วประเทศในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด พร้อมสั่งให้ประเทศกลับเข้าสู่มาตรการล็อคดาวน์อีกครั้งในวันพุธ ขณะที่การระบาดระลอก 2 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 มีแนวโน้มรุนแรงในยุโรปก่อนฤดูหนาวมาเยือน เนื่องจาก ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศของยุโรป

ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ที่เห็นพ้องต้องกันระหว่างนางแมร์เคิล และบรรดาผู้นำรัฐบาลในภูมิภาค เยอรมนีจะปิดบาร์, ร้านอาหารและโรงละครจากวันที่ 2-30 พฤศจิกายนนี้ แต่โรงเรียนจะยังคงเปิด และร้านค้าจะยังได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ แต่ต้องเคร่งครัดในการจำกัดลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในขณะนี้ ระบบสาธารณสุขของเยอรมนียังสามารถรับมือกับความท้าทายได้อยู่ในวันนี้ แต่การระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัส จะลดทอนความสามารถของระบบสาธารณสุขภายในไม่กี่สัปดาห์นี้

นางแมร์เคิล กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ รัฐบาลเยอรมนีมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ครอบครัวและญาติมิตรได้พบปะสังสรรค์กันเทศกาลคริสต์มาส แต่การติดเชื้อไวรัสรายวัน เพิ่มขึ้นสูงสุดครั้งใหม่ 14,964 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 85 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด

ด้านโอลาฟ โชลซ์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี โพสต์ทวิตเตอร์ว่า “เดือนพฤศจิกายนนี้ จะเป็นหนึ่งเดือนแห่งความจริง” จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังบีบให้ประเทศต้องใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดกั้นการระบาดรอบ 2 ส่วนเยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวว่า หากเรารอจนแผนกผู้ป่วยหนัก หรือไอซียู เต็ม มันจะช้าเกินไป ไม่ทันกาล



เยอรมนียังเป็นประเทศที่รับผู้ป่วยโควิดจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโรงพยาบาลเกินขีดความสามารถแล้ว

ทั้งนี้ เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปจากการระบาดในช่วงต้นปีนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ รวมทั่วประเทศขณะนี้ อยู่ที่ 479,434 คน และเสียชีวิต 10,218 คน

ขณะที่ ในสหรัฐ คลื่นการระบาดใหม่ คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะยังทำสถิติพุ่งสูงต่อเนื่องในช่วง 6 วันจนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายน โดยขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 8,836,861 คน และเสียชีวิต 227,409 คน สูงที่สุดในโลกทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อ



ตัวเลขล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในวันอังคาร พบว่า ยุโรปมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.3 ล้านคนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 2.9 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตอีก 11,700 คน เพิ่มขึ้น 37 เปอร์เซ็นต์จากสัปดาห์ก่อน จนถึงขณะนี้ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก พุ่งขึ้นมาอยู่ที่มากกว่า 44 ล้านคนแล้ว และเสียชีวิตมากกว่า 1.17 ล้านคน