“นิวเคลียร์” ขอโทษ หลังปล่อย “น้องไทก้า” ร้องจ้ากลางร้านอาหาร

2020-10-25 11:00:03

“นิวเคลียร์” ขอโทษ หลังปล่อย “น้องไทก้า” ร้องจ้ากลางร้านอาหาร

Advertisement


มีลูกเท่านั้นถึงจะเข้าใจ “นิวเคลียร์ หรรษา” เล่าประสบการณ์ตรง “ไทก้า” แผงฤทธิ์ร้องจ้ากลางร้านอาหาร พร้อมขอโทษหลังปล่อยลูกร้องรบกวนคนอื่น


เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่แม่ๆ เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องเจอะเจอเลยก็ว่าได้ สำหรับเหตุการณ์ลูกน้อยร้องไห้จ้ากลางร้านอาหารหรือตามสถานที่สาธารณะจนต้องตกเป็นเป้าความสนใจของคนรอบข้าง เช่นเดียวกับครอบครัวขวัญใจแฟนๆ อย่างบ้านของ “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” และนักแสดงสาว “นิวเคลียร์ หรรษา” ที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทั้งคู่ก็ได้พาลูกชาย “น้องไทก้า” ไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วลูกชายดันเกิดอาการงอแง จนในที่สุดก็แผงฤทธิ์ร้องจ้าออกมากลางร้าน






ซึ่งงานนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น “นิวเคลียร์ หรรษา” ก็ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว ชี้แจงสาเหตุการร้องไห้ของ “น้องไทก้า” พร้อมทั้งขอโทษต่อกรณีดังกล่าวว่า... 


“ประสบการณ์ในร้านอาหารที่คนมีลูกเท่านั้นถึงจะเข้าใจ ฮืออ ไทก้าปกติกินง่ายมากๆ พอเข้าช่วงวัยทองเริ่มยากแล้วค่ะ... วันนี้พาไทก้าไปร้านอาหารแห่งหนึ่งไทก้าไม่ยอมกินข้าวเพราะห่วงจะเล่นสมุดสติ๊กเกอร์ไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมนั่งเก้าอี้กินข้าวไม่เอาอะไรเลยจะเล่นอย่างเดียว






ตอนแรกคุยกันว่าโอเคให้เล่นแป๊บนึงเสร็จแล้วไปกินข้าวนะไทก้าก็บอกว่าโอเค แต่พอถึงเวลาก็ไม่ยอมจะเล่นอย่างเดียว แม่เลยบอกว่ากินข้าวเสร็จค่อยเล่นก็เลยร้องไห้โวยวายเสียงดังในร้านอาหาร แม่ก็พูดด้วยความใจเย็นบอกให้ก้าใจเย็นๆ คุยกันด้วยเหตุผลแม่ให้เล่นแน่ แต่ต้องกินให้เสร็จก่อนเพราะมันคือเวลาทานข้าว ไทก้าก็ไม่ยอมแม่เลยบอกว่าโอเคถ้าไม่กินแม่ก็จะเอาสมุดสติ๊กเกอร์ไปทิ้งนะ ก็ร้องหนักเลยทีนี้ คือเกรงใจคนในร้านมั้ยก็เกรงใจมากเลยค่ะ ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย แง่ แต่เราก็ไม่อยากโอ๋หรือยอมตามใจ เพราะเขาก็จะคิดว่าถ้าร้องไห้จะชนะทุกอย่าง ละก็ไม่อยากสั่งให้ลูกเงียบหรือตะคอกขู่ให้ลูกกลัวละหยุด เวลาลูกร้องจะพยายามให้ลูกจัดการกับอารมณ์ตัวเองและเข้าใจในเหตุผล แต่สำหรับคนภายนอกที่มองเข้ามาบางคนก็อาจจะคิดว่าทำไมปล่อยลูกร้อง ทำไมไม่ทำอะไรสักอย่างให้ลูกเงียบ อาจจะรำคาญเสียงร้องของเด็ก (ซึ่งก่อนนิวมีลูกนิวก็เคยมีอารมณ์แบบนั้นเวลามีเด็กร้องไห้ในร้านอาหาร 555)



พอร้องหนักๆ นิวก็อุ้มก้าไปคุยนอกร้านด้วยเหตุและผล ก็ยังไม่ฟัง สุดท้ายก็เอาสมุดสติ๊กเกอร์ไปซ่อนแล้วบอกว่า OK ไม่ต้องกินไม่ได้เล่นด้วยกลับบ้านกันมี้ไม่บังคับให้ลูกกิน พอเดินออกไปจากร้านกำลังจะขึ้นรถก้าก็บอกยอมกินแล้ว เลยเดินกลับเข้าร้านนั่งกินจนหมดจานฮ่าๆๆ แล้วแม่ก็ไปเอาสมุดคืนมาบอกว่าเห็นไหมพอกินเสร็จเราก็ได้เล่นเวลากินก็คือกินกินเสร็จก้าอยากทำอะไรก็ค่อยทำ

...ช่วงนี้แม่ต้องหายใจเข้าออกวันละหลายรอบเพื่อความใจเย็นไม่ปรี๊ด 5555 จะเป็นไบโพลาร์แล้วเด้ออ ..แม่ๆ มีอะไรแนะนำแนะนำมาได้เลยนะคะ”




เรียกได้ว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องเป็นคนมีลูกเท่านั้น ถึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้จริงๆ

ติดตามข่าวบันเทิงเพิ่มเติม  




ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : newclear_hansa