เจ้าอาวาสผวา! ถูกชาวบ้านขู่ฆ่า แถมเคยด่าท้าชกมาแล้ว

2020-10-25 09:55:52

เจ้าอาวาสผวา! ถูกชาวบ้านขู่ฆ่า แถมเคยด่าท้าชกมาแล้ว

Advertisement

เจ้าอาวาสวัดดังเมืองตรังผวา! กลุ่มชาวบ้านเสียผลประโยชน์จากวัด ขู่ฆ่ายิงให้ตาย หลังเคยถูกด่าหยาบคาย ท้าชกต่อยมาหลายครั้ง เตรียมขึ้นโรงพักดำเนินคดี

วันที่ 25 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Pra Pramot Suttijittho” ได้โพสต์เผยแพร่ข้อความระบุในประเด็นที่ถูกกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่ง ข่มขู่จะยิงให้เสียชีวิต และมีการคุกคาม ต่อมาได้สืบทราบว่าเจ้าของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวคือ พระปราโมทย์ สุทธจิตโต เจ้าอาวาสวัดโคกมะม่วง หรือ วัดโคกกระท้อน ม.2 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นวัดโบราณที่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี และเป็นวัดแห่งที่ 2 ของ จ.ตรัง ทำให้ลูกศิษย์และญาติโยมต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดโคกมะม่วง ได้พบกับ พระปราโมทย์ ก่อนจะสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว พระปราโมทย์ เล่าว่า สาเหตุจากตั้งแต่ที่อาตมามาอยู่วัดแห่งนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสก็ได้จัดระเบียบวัดใหม่ทั้งหมด จนทำให้คนบางกลุ่มที่เคยได้ผลประโยชน์แอบแฝงจากวัด ทั้งปัจจัยงานศพ ปัจจัยบำรุงเมรุ นำไปเป็นของตนเองปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาบำรุงวัดกลับเอาไปใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด จนตนเองได้นำเงินเหล่านั้นเข้ามาพัฒนาวัด ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจของกลุ่มคนเหล่านั้น ซึ่งช่วงนั้นวัดก็ไม่ได้พัฒนาอะไรมาก พออาตมาเข้ามาก็ได้เปลี่ยนแปลงพัฒนาไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้เคยให้โอกาสไปหลายครั้ง ก็เข้ามาขอขมาขอโทษ แต่ก็ยังคงกระทำอีกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาถึงครั้งล่าสุดที่อาตมาต้องโพสต์เฟสบุ๊กก็คือ เพราะหนักสุดแล้ว สุดทนกลุ่มคนเหล่านั้นได้ขู่และไปประกาศกับคนในหมู่บ้านและในวงสุรา ขู่ฆ่าว่าจะยิงอาตมาให้ตาย




“อาตมาอยากให้มี บรรทัดฐานบ้าง อาตมาเป็นพระ แต่กลับถูกย่ำยีมาตลอด มาด่าทั้งต่อหน้า และลับหลัง มีการชี้หน้า ท้าต่อยบ้าง ใช้คำพูดที่หยาบคาย ฟังไม่ได้ มีการดูหมิ่นเหยียดหยามอาตมา ซึ่งครั้งนี้อาตมาจะไม่ทน จะต้องไปแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

หลังจากมีการโพสต์ผ่าน เฟซบุ๊ก ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหรือโทรมาหา อาตมาคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้บั่นทอนจิตใจ รู้สึกท้อและเหนื่อยที่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้ ถ้าเทียบคนทั้งหมู่บ้านก็มีอยู่ประมาณ 2-3 คนที่มีปัญหากันอยู่ อาตมาก็ให้อภัยมาตลอด แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก 3-4 ครั้ง ที่ผ่านมาก็ได้แจ้งเรื่องไปทางผู้นำชุมชนให้รับทราบ แต่บุคคลเหล่านั้นก็ยังคงกระทำอีก ตนเองก็หวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้วิตกมากเพราะเชื่อมั่นในการทำความดี แต่ไม่ใช่เมื่อเห็นเราเป็นพระแล้วจะทำอะไรกับพระก็ได้ เพราะพระเราไม่สู้อยู่แล้ว ที่กระทำไปเพราะอยากให้เป็นบรรทัดฐานเพียงเท่านั้น และให้กลุ่มบุคคลเหล่านั้นหยุดกระทำเช่นนี้อีก