กรมควบคุมโรคเกาะติดเหตุก๊าซรั่วไฟไหม้

2020-10-22 19:10:28

กรมควบคุมโรคเกาะติดเหตุก๊าซรั่วไฟไหม้

Advertisement

อธิบดีกรมควบคุมโรคมอบหมายหน่วยงานในสังกัด ลงพื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพกรณีก๊าซธรรมชาติรั่วและเกิดเพลิงไหม้ใน จ.สมุทรปราการ แนะนำประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงหากมีอาการหายใจติดขัด ปวดศีรษะ วิงเวียน ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีก๊าซธรรมชาติรั่วและเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ได้มอบหมายให้กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สคร.6 จ.ชลบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ติดตามและประสานงานกรณีดังกล่าวกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ในวันที่ 23 ต.ค. กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และ สคร.6 จ.ชลบุรี ได้ส่งทีมลงพื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ สอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม สนับสนุนอุปกรณ์ในการป้องกัน พร้อมทั้งให้ความรู้และคำแนะนำในการป้องกันตนเองแก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทางกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ได้สนับสนุนอุปกรณ์ในการป้องกันตนเอง หน้ากาก N 95 คาร์บอน จำนวน 500 ชิ้น แก่หน่วยงานในพื้นที่ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ก๊าซธรรมชาติ (NGV) นั้น เมื่อเกิดการรั่วไหล หากสูดดมหรือหายใจเข้าไปสะสมในปริมาณมาก จะก่อให้เกิดอาการหายใจติดขัดอย่างรุนแรง ปวดศีรษะ วิงเวียน และอาจหมดสติได้ และหากสัมผัสถูกตาอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ทั้งนี้ NGV เบากว่าอากาศจึงไม่มีการสะสมเมื่อเกิดการรั่วไหล แต่หากเกิดการติดไฟจะเป็นอันตรายมาก ซึ่งองค์ประกอบการติดไฟต้องมี 3 อย่างคือ เชื้อเพลิง ประกายไฟ และอากาศ หากทั้ง 3 อย่างนี้ผสมกันพอดีก็จะเกิดเพลิงไหม้ และถ้าไหม้ในที่อับอากาศก็จะเกิดเสียงดังขึ้น หรือที่เรียกว่าระเบิดนั่นเอง 

"แนะนำว่าประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุดังกล่าว หากตนเองหรือคนในครอบครัวมีอาการหายใจติดขัด ปวดศีรษะ วิงเวียน หรืออาการต่างๆ ที่สงสัยว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์นี้ (22-28 ต.ค. 63) ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลเฝ้าระวังสังเกตในพื้นที่ที่มีแนวท่อก๊าซ หากมีเหตุการณ์ผิดปกติ ขอให้แจ้งพนักงานในโรงงาน ผู้นำชุมชน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการระงับเหตุดังกล่าวให้เร็วที่สุด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422"นพ.โอภาส กล่าว