“ชวน”หารือวิป 4 ฝ่ายให้เวลาฝ่ายค้าน 8 ชม. ฝ่ายรัฐบาล ครม. ส.ว. ได้ฝ่ายละ 5 ชม. ถกหาทางออกประเทศ ขณะที่ฝ่ายค้านแบะท่าถอนตัวประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานประชุม 4 ฝ่าย ได้แก่ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และส.ว. เพื่อกำหนดประเด็นและกรอบเวลาในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 26-27 ต.ค.เพื่อหาทางออกให้ประเทศจากสถานการณ์ชุมนุมของประชาชน เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชม.
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานวิปรัฐบาล แถลงว่า ได้แบ่งการกรอบเวลาอภิปรายเป็น 4 กลุ่ม รวม 23 ชม.ได้แก่ฝ่ายค้านได้ 8 ชม. ฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และ ครม.ได้ฝ่ายละ 5 ชม. และแบ่งเวลาให้ประธานรัฐสภาอีก 1-2 ชม. การประชุมในวันที่ 26 ต.ค.เริ่มเวลา 09.30 -22.00 น ส่วนวันที่สองจะอภิปรายต่อจนครบเวลาที่เหลืออยู่ หวังว่า ในญัตติของรัฐบาลที่เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้จะเป็นทางออกทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านเห็นเนื้อหาในญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว กังวลว่าจะขัดข้อบังคับการประชุมหรือไม่ หากจะมีการพูดถึงเรื่องสถาบัน และการประชุมครั้งนี้จะตอบสนองความคาดหวังของสังคมในการหาทางออกให้ประเทศได้จริงหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วไม่ใช่ทางออกฝ่ายค้านอาจจะพิจารณาทบทวนไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ หรือถ้าจะเข้าร่วมประชุมจะเป็นในลักษณะใด เพราะประเทศไทยไม่เคยมีญัตติในลักษณะนี้มาก่อน โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว แต่ฝ่ายค้านจะพยายามทำงานร่วมกับรัฐบาล และส.ว. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสังคมให้มากที่สุด
ส่วนนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า กล่าวว่า การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้แม้จะไม่ใช่ทางออกทั้งหมด แต่เป็นจุดเริ่มต้นการนำปัญหากลับเข้ามาในสภา เพื่อนำไปแก้ไข เช่นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการอภิปรายเรื่องสถาบันนั้น หากจะอภิปรายต้องพูดอย่างมีวุฒิภาวะ ใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง และรับผิดชอบหากสิ่งที่พูดไปทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ