รวบแล้ว “4 โจ๋” สุดกร่าง บุกยิงอริวัย 16 ปี หน้าร้านมินิมาร์ท

2020-10-22 15:15:49

รวบแล้ว  “4 โจ๋” สุดกร่าง บุกยิงอริวัย 16 ปี หน้าร้านมินิมาร์ท

Advertisement

รวบแล้ว 4 โจ๋กร่าง บุกล็อคคอ ลากอริวัย 16 ปี รัวยิงหน้าร้านมินิมาร์ท ตำรวจคุมตัวแถลงข่าวสื่อ อ้างแก้แค้นหลังเคยมีเรื่องกันมาก่อน หัวหมอปัดไม่ขอทำแผน

วันที่ 22 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยอดชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จวจันทบุรี . พ.ต.อ.พงศรพี รพีถวิลวรรณ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี และ พ.ต.ท.ปัญญา บุญมี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองจันทบุรี นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนคุมตัว นายชัยทัศน์ หรือ เบ็นซ์ อายุ 22 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายเท็น (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้าน ม.4 ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี ,นายเจ นามสมมติ อายุ 18 ปี และ นายบาย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ขนาด จุด 45 ยี่ห้อ BUL M-5 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน , รถ จยย. ฮอนด้า สกู๊ป ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และ รถ จยย. ยามาฮ่า รุ่น ฟีโน่ สีน้ำตาล ทะเบียน ขคข-618 จันทบุรี พาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ มาแถลงผลการจับกุมต่อสื่อมวลชน

โดยทาง พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี เปิดเผยว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 05.00 น.เช้ามืด วันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ในขณะกลุ่มผู้ต้องหา ทั้ง 4 ราย ได้เข้ามาเติมน้ำมันรถ จยย. ที่ร้านบุปผาสโตร์ ที่เกิดเหตุ และพบรถ จยย.ของ นายจุทารัตน์ หรือเท็น คู่อริ ซึ่งเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ยืนอยู่ในร้าน จากนั้น นาย เจ ได้เข้าไปล็อคคอ นายจุทารัตน์ หรือเท็น ผู้เสียหาย ออกมาจากร้าน และพากันรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งต่อมา นายจุทารัตน์ หรือ เท็น ได้สะบัดตัวหลุดมาได้และพยายามวิ่งหนี ทำให้นายชัยทัศน์ หรือ เบ็นซ์ ใช้อาวุธปืนยิงไล่หลังไป จำนวน 1 นัด กระสุนถูกบริเวณขาขวา นายจุทารัตน์ หรือ เท็น ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมด จึงได้พากันหลบหนีไป ซึ่งขณะก่อเหตุ กล้องจงจรปิดในร้านมินิมาร์ท สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน




พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในแหล่งชุมชน และมีประชาชนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จำนวนมาก จึงได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวน เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังใช้เวลาเพียง 8 ชม.หลังเกิดเหตุ ทางตำรวจสืบสวน จึงสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งจากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริง อ้างว่าเป็นความแค้นส่วนตัว และไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกรงความไม่ปลอดภัย จึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืน ไปในที่ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป