"ซูเปอร์โพล" ชี้ ปชช.มีความสุขหากคนไทยเป็นหนึ่งเดียว หนุนเชือด "นักการเมือง" ชักใยจาบจ้วง "สถาบัน"
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เสาหลักของชาติ ศูนย์รวมใจ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 2,408 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 16-21 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 97.3 มีความสุขถ้าเห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำบุญถวาย ในหลวงรัชกาลที่ 5 ในวันคล้ายวันสวรรคต มีเพียงร้อยละ 2.7 ที่ไม่มีความสุข ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงความเห็นที่คนไทยจะยกย่องในหลวงรัชกาลที่ 5 พระราชบิดาแห่งเสรีภาพคนไทย ที่ทรงประกาศเลิกทาส พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 97.5 เห็นด้วย มีเพียงร้อยละ 2.5 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 97.5 เห็นด้วยที่คนไทยจะยกย่องในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเป็นพระราชบิดาแห่งสิทธิมนุษยชนของคนไทย มีเพียงร้อยละ 2.5 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ที่น่าสนใจ คือ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 94.3 เห็นด้วยต่อสิทธิเสรีภาพที่ต้องมากับความรับผิดชอบ เช่น คนใช้เสรีภาพคุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ทำร้าย ประทุษร้ายผู้อื่น ย่อมต้องรับผิดชอบต่อการใช้เสรีภาพนั้น ขณะที่ร้อยละ 5.7 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 94.2 เห็นด้วยต่อนักการเมือง และผู้สนับสนุนการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยให้เกิดการลอกเลียนแบบ มีเพียงร้อยละ 5.8 ที่ไม่เห็นด้วย
ผอ.ซูเปอร์โพล ระบุว่า ข้อมูลผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า เสาหลักของชาติคือศูนย์รวมใจ สถาบันทรงอยู่ใกล้ชิดวิถีชีวิตของประชาชนบนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ และวันนี้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยยกย่องให้ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระราชบิดาแห่งเสรีภาพของคนไทย และพระราชบิดาแห่งสิทธิมนุษยชนของคนไทยอย่างแท้จริง ที่ทรงประกาศเลิกทาส และยังทรงพัฒนาประเทศควบคู่กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยการเปิดโลกเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน การรถไฟไทย เชื่อมโยงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลทุรกันดารได้รับประโยชน์สุขอย่างทั่วถึง และโครงการพระราชดำริต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ใกล้ชิดวิถีชีวิตของประชาชนในทุกวันนี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล ระบุเพิ่มเติมว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง ส่วนหนึ่ง คือ การใช้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มผลประโยชน์ หรือกลุ่มขัดแย้งต่างๆ ไปเจรจาหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดความขัดแย้งกันในสภาฯ โดยนักการเมืองต้องไม่เป็นต้นตอแห่งความขัดแย้งเสียเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง และการก่อการจลาจลที่อาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่กลายเป็นผู้แพ้ เพราะจะเดือดร้อนและทุกข์ยากลำบากมากขึ้นไปอีก แต่จะมีเพียงคนกลุ่มเล็กน้อยที่ได้ผลประโยชน์บนซากปรักหักพังของบ้านเมือง ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า เสรีภาพต้องคู่กับความรับผิดชอบ ถ้าใช้เสรีภาพไปคุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ประทุษร้ายผู้อื่น ย่อมต้องได้รับโทษตามกฎหมายในความผิดที่ทำ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่บังคับใช้กฎหมายลงโทษคนทำผิดกฎหมาย แล้วบ้านเมืองกับประชาชนสามัญชนทั่วไป จะอยู่กันอย่างปกติสุขได้อย่างไร