"กวาง" - "น้ำหวาน" เผยโดนตำหนิที่เซอร์ไพร์สแต่งงานไม่บอกที่บ้านก่อน

2020-10-20 10:55:40

"กวาง" - "น้ำหวาน" เผยโดนตำหนิที่เซอร์ไพร์สแต่งงานไม่บอกที่บ้านก่อน

Advertisement

หลังจากเปิดตัวคบกันสำหรับคู่รักระหว่างนักร้องหนุ่ม"กวาง เอบีนอร์มอล" หรือ "ศิริศิลป์ โชติวิจิตร" กับนักร้องสาว "น้ำหวาน ซาซ่า" หรือ "น้ำหวาน พิมรา" ท่ามกลางกระแสดราม่าแฟนเก่าและคบซ้อน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กุมมือกันแน่นพร้อมจับมือกันไม่ปล่อยฝ่าอุปสรรคพร้อมกับพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความรักของทั้งคู่ที่มีให้ต่อกันจริงแค่ไหน ซึ่งทั้งกวาง และ น้ำหวาน ได้มาเป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษในรายการ Club Friday Show เผยโมเมนต์หวานและปัญหาของความรักที่ทั้งคู่ฟันฝ่ามาพร้อมกับเผยว่าการเซอร์ไพรส์ ขอแต่งงานที่ไม่ได้ขอตามพิธีการว่า

 
พ่อแม่บอกให้ใจเย็นๆค่อยๆดูคบกันสามเดือนแต่งงานเลย ?

กวาง : (ยิ้ม) เราไม่เคยแต่งงานเราเลยไม่รู้ว่ามีพิธีขั้นตอนยังไง เราก็คิดแค่ว่าไปเซอร์ไพรส์กันแล้วขอแต่งงานมีช่วงแรกๆที่คุณแม่เขาไม่พอใจเหมือนกันแบบทำไมไม่มาคุยกันก่อน เพราะคุณแม่น้ำหวาน เขารู้พอข่าวเลย เพราะความที่เราไม่รู้จริงๆ แล้วเราก็มารู้ทีหลังว่าจริงๆเขาไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน (คือต้องแอบไปคุย) แต่สุดท้ายด้วยความที่เราไม่รู้ก็ไปขอน้ำหวานแต่งงาน

ก่อนที่จะมาถึงในวันดีๆที่จะแต่งงานกันนี้ มีข่าวออกมาต่างๆนานาๆ ตรงนั้นมันเป็นเครื่องพิสูจน์ส่วนหนึ่งของเราด้วยหรือเปล่า ?



กวาง : เป็นอย่างหนึ่งเลยครับ ความเข้มข้นในการที่จะฝ่าฟันปัญหาไปคู่ปกติอาจจะใช้เวลา 1-2 ปี ในการที่จะผ่านเรื่องราวอันนั้น แต่สำหรับคู่เราตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเราจะจูงมือกันยังไงให้ผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราสานสัมพันธ์กันเร็วมากขึ้นด้วย

อะไรทำให้คิดว่าเราต้องแต่งงานกัน ?

กวาง : ความคิดที่ว่าครั้งนี้มันไม่ใช่การทดลองแล้ว อันนี้เป็นอย่างแรกเลยที่ทำให้มั่นใจครับ แล้วโดยสภาพแวดล้อมเราด้วย อายุเราด้วย หน้าที่การงาน เราเจอคนที่ใช่แล้วด้วย เราเจอแล้ว เราเห็นภาพแล้ว เราเลยไม่รู้สึกว่ามันไม่มีเหตุผลที่จะต้องรออะไรอีกแล้ว เราคิดว่าหวานเขาก็พร้อมด้วย (คิดเองก่อนด้วย)



น้ำหวาน : แต่จริงๆเขาก็มีพูดๆบ้างว่าระหว่างทางที่เราสองคนฝ่าฟันมาด้วยกัน เขาพูดกับเราว่าความรักครั้งนี้ เขาคิดจะจริงจังนะ เราก็คืดว่า .. เราจะได้แต่งงานแน่เลย (หัวเราะ) แต่ว่าในขณะเดียวกันเราก็รู้สึกว่าเขาให้เกียรติเรา เขาให้เกียรติครอบครัวเรากล้าที่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน เพราะที่เรารู้จักกับเขามาอาจจะไม่นาน แต่เรารับรู้เรื่องส่วนตัวของเขาหลายอย่าง แต่พอเขาเปิดประเด็นมาแบบนี้เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้คบกันไปวันๆหรือเรื่อยๆนะ อันนี้ ดูเหมือนเป็นรักที่มีอนาคตเขาแสดงความจริงจัง จริงใจจากใจเขา

เคยคิดว่าเขาจะขอแต่งงาน แล้วพอถูกขอแต่งงานภาพเป็นอย่างที่เราคิดไว้ไหม ?

น้ำหวาน : ดูหนังมาเยอะค่ะ แต่เวลาที่หวานเห็นคนที่ขอแต่งงานกันทุกคนจะต้องแต่งตัวอลังการสวยงามดูพร้อมมาก แต่ของเราคือ พี่กวางโทรศัพท์มาหาเราตอนเช้าว่า มันมีเสื้อที่ส่งมาให้เราเป็นเสื้อคู่เรายังไม่ถ่ายลงไอจีให้เขาเลยเขาทวง เราเลยบอกเขาว่าเดี๋ยวหาก่อน เขาก็ย้ำว่าให้เราใส่มานะเขาก็ชวนให้เราไปกินข้าวร้านเพื่อนพอกินข้าวเสร็จเขาก็พาเราขึ้นไปด้านบน พอขึ้นไปด้านบนคือ ทุกคนก็จุดพลุจุดอะไร พอเราหันไปเห็นเพื่อนเราคือ ใช่เลยแน่นอนล่ะ

กวาง : ขั้นตอนการวางแผนนะครับ คือ ผมมีเพื่อนที่เขาจัด เวดดิ้งแพลนเนอร์ เลยปรึกษาคนนี้ว่าเขาจะจัดยังไงดีบ้าง เขาก็แนะนำไปร้านโน้น นี้ แต่เราคิดว่าเขาต้องรู้แน่ๆเลยเพราะไปร้านเว่อร์เขารู้แน่ เพราะปกติประจำแล้วเราจะเจอกันที่นี่ เหมือนเป็นแผนว่าเพื่อนมีเมนูใหม่ให้ไปลองหน่อย แล้วคือ ยากไปอีกตรงที่ว่า แหวน กับกวาง จะเจอกันตลอดเพราะบ้านเราอยู่ด้วยกันการไปหาแหวนคือ ยากมาก แล้วมีอยู่วันหนึ่งพอดีที่ หวาน เขาไปทำงานแล้วเราไปด้วยมีเวลาไม่ถึงชั่วโมงที่เราจะจะวิ่งไปซื้อแหวนที่พารากอน แล้ววิ่งกลับมาที่เซ็นทรัลเวิล์ด แล้วเอาแหวนไปเก็บในรถและต้องทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย





ในโมเมนต์นั้นคิดไหมว่าคุณพ่อคุณแม่จะดุแน่เลย ?
น้ำหวาน : แว่บแรกคิดเลยค่ะ กล้าพูดได้เลยว่า ... ตายแล้ว พอยินดีกันเรียบร้อย ถ่ายรูปเสร็จ เราบอกพี่กวางตายแล้ว ต้องรีบบอกแม่ก่อนที่ข่าวจะออกไป แล้วคือ เราโทรหาแม่ “พี่กวางขอแต่งงาน” แม่พูดว่า “เดี๋ยวกลับมาคุยกันที่บ้าน”

กวาง : พ่อแม่ผมก็รู้พร้อมกันวันนั้นเลยครับ



พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้เลยเรื่องการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ?

กวาง : ไม่รู้เลยครับ คือที่คุณแม่น้ำหวานให้ไปคุยที่บ้านกวางก็ไปด้วยวันนั้น ไปคุยกับคุณแม่เขา

แล้วคุณแม่น้ำหวาน ตำหนิไหม ?

กวาง : ตำหนิครับ ก็ยอมรับว่าเราด้วยความที่เราไม่รู้จริงๆ

น้ำหวาน : ถามว่าเขาโกรธไหม คือ คุณแม่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียว เพราะฉะนั้น มันจะต้องมีการคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้ อันนี้เป็นเหมือนที่เด็กๆคุยกัน คุณแม่ยังไม่ได้คุยกับทางพี่กวางโดยตรงเลยเขาก็จะตำหนิมานิดหน่อย มีงอนๆนิดหน่อย



ที่บ้านรู้สึกไหมว่าเร็วไปหรือเปล่า ?

น้ำหวาน : รู้สึกเหมือนทุกคนว่าเร็วไป เขาอยากให้เราดูไปเรื่อยก่อนไม่ใช่แค่เราดูพี่กวางฝ่ายเดียว พี่กวางก็ต้องดูน้ำหวานเหมือนกันจริงๆน้ำหวานนิสัยใจคอเป็นยังไง เพราะเวลาไม่นานนิสัยจริงๆมันยังไม่ออกมา แต่สุดท้ายเมื่อเราตัดสินใจแล้วเราก็จะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆค่ะ

แต่กว่าจะมาถึงวันดีๆแบบนี้ ทั้งคู่ก็ผ่านการทะเลาะกันมาเยอะ ?

กวาง : ใช่ครับ เรื่องหลักเลยที่ทำให้เราทะเลาะกันซะส่วนใหญ่เลยคือเรื่องหึงหวง แต่ด้วยความที่เราเคยเป็นมาก่อนเราเลยเข้าใจมีวิธีคุยวิธีแก้กันมาเรื่อยๆ เราก็พยายามเตือนพยายามดุกับเขาให้เขารูปเข้ารอยคือการรักไม่ใช่การหวงกัน คือเขาเอามาปนกันหมดการที่รักกันฉันต้องหวงเธอที่สุด เธอคือต้องเป็นของฉันคนเดียว

น้ำหวาน : หลงตัวเองหรือเปล่าไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย

กวาง : เราก็ค่อยๆสอนเขาค่อยๆปรับเปลี่ยนครับ คือหวานยังดีอย่างหนึ่งคือพอเขาอารมณ์เย็นลงเขายอมฟังครับ หรือตอนที่เขายังร้อนอยู่ที่เราพูดๆใส่กันคือเขาเก็บแล้วเขาเอาไปคิด แล้วมาเข้าใจทีหลัง แต่เราเข้าใจนะครับว่าคนเราเวลาทะเลาะกันเวลาเดือดๆมันฟังกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ให้เวลาเขากลับไปคิดหน่อย

กวาง : อีกอย่างคือน้ำหวานมโนเก่งสุดๆเลยครับ ก่อนที่จะขอแต่งคิอ กราฟขึ้นสูงมาก แต่หลังจากที่ขอแต่งงานแล้วกราฟลงแล้วครับ แต่ตอนที่กราฟขึ้นมากๆเขาสามารถหยิบจับทุกอย่างมาคิดมาจินตนาการได้หมด อย่างเรา เคยไปแข่งรถที่ภูเก็ตแล้วเขาไปเจอรูปแฟนเก่าๆๆๆของเราลงรูปไปทะเล แล้วเขาคิดว่าเราไปด้วยกัน เราก็บอกว่าเธอ 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกคือทะเล แต่เราเข้าใจเขาครับ เพราะเราเคยผ่านจุดหึงหวงแบบเขามาแล้ว



การมาเจอกันของคู่นี้ ก็ไม่น่าจะมาเจอกันได้ แล้วมาเจอกันยังไง ?

น้ำหวาน : คือมีอยู่วันหวานต้องไปงานแล้วคือวันนั้นเราไปสายมากๆแล้วคือ พอเปิดประตูไปแล้วเราเจอแต่รุ่นใหญ่ๆทั้งนั้นเลย แล้วเราก็หันมาเจอพี่กวาง เราก็เลยแบบมีเพื่อนแล้ว พอเราเจอกันเราก็เลยได้คุยกัน

กวาง : ตอนเจอหวานตอนนั้นผมโสดแล้วครับ

น้ำหวาน : ตอนนั้นหวานมีแฟนอยู่ค่ะ

น้ำหวาน : แต่ตอนที่เราเจอกันตอนนั้นคือ เราไม่ได้คิดอะไรต่อกันเลย เพราะเราก็มีแฟน แล้วเรานึกว่าเขาแต่งงานแล้ว เราเลยถาม เขาบอกว่ายังเพิ่งเลิกกับแฟนแล้วคือเราเป็นคนชอบถามอยู่แล้ว คือ ตอนนั้นหลังจากงานเราก็พิมพ์คุยกัน

กวางทำไมถึงได้เลือกน้ำหวานเป็นที่ปรึกษา ?

กวาง : คือกวางเวลาจะปรึกษาใครเรื่องความรัก กวางจะไม่ปรึกษาคนในวงกลมของกวาง จะปรึกษาคนที่อยู่นอกวงกลม คือเราไม่อยากให้เรื่องพวกนี้วนกลับมาในระบบของเรา

แล้วคุยไปเรื่อยๆแล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนในใจว่า คนคนนี้ไม่ใช่ที่ปรึกษาอีกต่อไปแล้ว ?  

กวาง : ปกติกวาง ไม่เคยเริ่มมาจากการเป็นเพื่อนกับใครมาก่อนเลย ปกติจีบคือจีบ กับหวานพอมันเป็นเพื่อนกันมันเลยเหมือนไม่มีจุดที่จับมือตกลงว่าเป็นแฟน แต่กับหวานเขามีความใส่ใจรายละเอียดหลายๆอย่างของผม เวลาเราพูดอะไรไปวันนี้ ปรึกษาเรื่องนี้ เวลาผ่านไป 1-2 สัปดาห์เขาก็ยังจำรายละเอียดที่เราเล่าได้ เราเลยรู้สึกว่า คุยกับคนนี้เขาใส่ใจเราดี

แต่ช่วงแรกๆที่เจอกัน น้ำหวาน ก็ยังมีแฟนอยู่ ?

น้ำหวาน : ใช่ค่ะ พอหลังจากเลิกกับแฟนพี่กวางก็มาคุยกัน เขาก็เข้ามาปลอบใจเพราะว่าช่วงเลิกกับแฟน ก็จะมีชื่อเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันกลายเป็นว่ามีความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นด้วย ณ วันนั้น แต่ตอนนั้นเราไม่ได้มีการมานั่งตกลงว่าเป็นแฟนกันเลยนะคะ แต่เพราะเวลามันทำให้เราซึมซับกันแล้วกันมากกว่า

อะไรคือตัวที่ทำให้เราตัดสินใจ ถูกใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ?

น้ำหวาน : สำหรับหวานรู้สึกว่า.. ความต่าง คือ เราต่างกันมากๆเขาเป็นคนลุย เป็นผู้ชายมากๆเขาชอบอะไรไมเหมือนหวานเลย แต่หวานจะผู้หญิงมากๆ เหมือนเขาบอกว่าซ้ายหวานจะไปขวาทันที แต่มันก็เป็นความแตกต่างซึ่งมันก็เป็นความแตกต่างที่ทำไมถึงลงตัวหวานก็ยังงงอยู่ถึงทุกวันนี้ แต่เราก็ตกลงกันว่า พี่ทำในสิ่งที่พี่ชอบ หวานก็จะไม่ฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แล้วเรากลับมาเจอกันได้ สามารถอยู่ด้วยกันได้ค่ะ

กวาง : กวางว่าอันนี้น่าจะเป็นความต่างที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ เพราะตัวกวางเองไม่ชอบบังคับให้ใครทำอะไรอยู่แล้ว อย่าง กวางขับรถมอเตอร์ไซค์ไปไกลๆ หวานนั่งเครื่องไปเจอกันที่โน้นก็ได้ เพราะมอเตอร์ไซค์คือมันน่ากลัวด้วยหวานไปก็จะอึดอัด ถ้าเราไม่ชอบเรานึกภาพออกเลยถ้าเราทำสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่อินมันเบื่อ ก็เลยคุยกันว่าถ้าไม่ชอบไม่ต้องไป ไม่เป็นไรนะ ก็เลยทำให้หลายๆอย่างที่เราแตกต่างกันมากๆมันกลายเป็นการเข้ากันที่ลงตัวครับ