รวบแล้ว! 2 ผู้ต้องสงสัย แทงสาวนิรนามโยนศพทิ้งคลอง

2020-10-19 12:40:28

รวบแล้ว! 2 ผู้ต้องสงสัย แทงสาวนิรนามโยนศพทิ้งคลอง

Advertisement

เหตุสลดสาวนิรนามถูกแทงดับโยนศพทิ้งคลอง ล่าสุดลากตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วเป็นใบ้ทั้งคู่

จากกรณี เมื่อเย็นของวานนี้ที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวเสียชีวิตลอยอยู่ในคลอง ข้างสะพานปูนทางเดินเลาะข้างคลองสวน หมู่ 13 ซอยมหาชัย ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง กางเกงยีนขาสั้น สภาพนอนตะแคงอยู่ภายในร่องน้ำทางสะพานปูนข้างคลอง โดยเจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบบาดแผลถูกแทงที่หน้าท้อง ต้นขาซ้าย และที่มือขวารวม 4 แผล คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง จากการตรวจภายในตัวไม่พบเอกสารหรือหลักฐานระบุตัวตน ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบกระเป๋าสะพายข้างสุภาพสตรีสีแดง สายคล้องกระเป๋าขาดตกอยู่ จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารหรือทรัพย์สินภายในกระเป๋าแต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุดในวันที่ 19 ต.ค. จากการสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่าผู้ตายชื่อนางสาววรรษุมน บัวอ่อน อายุ 36 ปี เป็นชาวพิษณุโลกและพิการเป็นใบ้พูดไม่ได้ และพบหลักฐานชิ้นสำคัญจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.40 น.ผู้ตายได้เดินเท้าเข้ามาจากถนนบางนาตราดพร้อมด้วยเพื่อนชายหญิงอีก 2 คน โดยเดินหายเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเดินกลับออกมาที่บริเวณปากซอยเพียง 2 คน และจากการสืบสวนทราบว่าชายหญิงที่เดินออกมาหลังเกิดเหตุชื่อนายฮอท และ น.ส.ตั๊ก ซึ่งทั้งสองก็เป็นคนพิการเป็นใบ้เช่นเดียวกับผู้ตาย พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าในย่านอุดมสุข เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าเชิญตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสองมาทำการสอบถาม แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากผู้ต้องสงสัยทั้งสองพิการเป็นใบ้พูดไม่ได้




ล่าสุด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดต่อล่ามจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย มาร่วมในการสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางมาคาดว่าจะสามารถสอบปากคำได้ในช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการหึงหวงและชิงทรัพย์ พร้อมได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานมาทำการเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ