กอร.ฉ.ยืนยันดำเนินการตามหลักกฎหมายเเละสากลนิยม เตรียมผู้เชี่ยวชาญชี้เเจงสารเคมีที่ผสมใช้ในการสลายการชุมนุม
วันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวถึงความคืบหน้ากรณีการผู้ชุมนุมของคณะราษฎร โดยย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายขณะนี้เป็นกฎหมายเฉพาะกับผู้ชุมนุม ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมใดๆ ที่จะนำไปสู่ความไม่สงบ หากมีความจำเป็นทางศูนย์ กอร.ฉ. จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเน้นทำให้สังคมสงบ ส่วนเรื่องรายละเอียดของคดีรวมถึงการนัดรวมพลกันของผู้ชุมนุม ขอให้ทางนครบาลเป็นผู้ชี้เเจง
สำหรับกรณีนักสิทธิมนุษยชนเเละนานาชาติตั้งข้อสังเกตถึงการกระชับพื้นที่ของตำรวจเมื่อวันที่16 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามหลักสากลจริงหรือไม่ ประเด็นนี้ขอยืนยันทุกอย่างเป็นหลักสากลและตำรวจปฏิบัติภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีการใช้กฎหมายพิเศษหลังมีประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง สำหรับส่วนผสมในน้ำที่ใช้ในปฏิบัติการกระชับพื้นที่เมื่อวันที่16 ต.ค.นั้น หลังจากนี้จะให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีชี้เเจงกับสื่อมวลชนอีกครั้ง เเต่ยืนยันใช้ตามหลักสากล
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวถึง กรณีมีผู้ไม่หวังดีปลอมประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องการกำหนดสถานที่ควบคุมเพิ่มเติม โดยได้บิดเบือนว่าประกาศดังกล่าว ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2562 และคำสั่งดังกล่าวเป็นโมฆะ ซึ่งข้อเท็จจริงราชกิจกาฯ ดังกล่าว ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2563 และสามารถตรวจสอบเอกสารของจริงได้ในเว็บไซต์ราชกิจจาฯ
นอกจากนี้ขอชี้เเจงกรณีภาพที่มีการเผยเเพร่ในโซเชียลที่เป็นภาพตำรวจลักษณะก้มลงมองพื้น พร้อมระบุข้อความในลักษณะว่าตำรวจคนดังกล่าวกำลังพ่นสีสเปรย์กับพื้นถนน เพื่อ ให้ผู้อ่านเข้าใจว่าตำรวจเป็นคนสร้่างสถานการณ์ ประเด็นนี้ ขอชี้เเจงว่า ภาพนั้นเป็นเหตุการณ์ภายหลังการชุมนุมที่ 5เเยกลาดพร้่าว ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเเละถ่ายภาพส่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ซึ่งการกระทำของผู้โพสต์เเละข้อความภาพดังกล่าวมีความผิดข้อหาสร้างข้อมูลเท็จเเละบิดเบือนข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์