"ซูเปอร์โพล" เผย "ประชาชน" อยากเห็นคนไทยรู้รักสามัคคี เชื่อใช้ "สภาฯ" แก้ปัญหาวิกฤต
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำไม ทำร้าย ประเทศไทยของฉัน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,891 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 14-17 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อสอบถามถึงคำถามที่ประชาชนอยากถามพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 87.9 อยากถามว่าทำร้ายประเทศไทยของฉันทำไม ปลุกปั่นกระแสแตกแยกของคนในชาติของฉันทำไม ทำไปเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร ทำไมเลือกทำตอนนี้ ในขณะที่ ร้อยละ 12.1 ไม่อยากถาม ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงความเห็นต่อภาพเศรษฐกิจเกาะฮ่องกง ก่อนและหลังม็อบคนรุ่นใหม่เกิดความขัดแย้งรุนแรงของคนในเกาะฮ่องกง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 93.4 ระบุว่า เสียหาย แย่หนักลงไปอีกหลังมีม็อบขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ความแตกแยกของคนในเกาะฮ่องกง ขณะที่ร้อยละ 6.6 ระบุว่า ไม่แย่ ไม่เสียหาย เมื่อถามถึงความเห็นต่อภาพเศรษฐกิจของประเทศลิเบีย ก่อนและหลังที่จะมีความขัดแย้งรุนแรงบานปลายจนเกิดเหตุจลาจล ต่างชาติอ้างความชอบธรรมเข้าแทรกแซง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91.3 ระบุว่าเสียหายแย่หนักลงไปอีก ขณะที่ร้อยละ 8.7 ระบุว่าไม่แย่ ไม่เสียหาย
ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อถามถึงความเห็นต่อภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อนและหลังม็อบขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ความแตกแยกของคนในชาติ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 ระบุว่า เสียหายแย่หนักลงไปอีก ขณะที่ร้อยละ 7.2 ระบุว่าไม่แย่ ไม่เสียหาย และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 97.3 ระบุว่าเป็นทุกข์และเดือดร้อนจากการชุมนุม ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโควิดที่แย่ลงไปอีก มีเพียงร้อยละ 2.7 ที่นะบุว่าไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อนอะไร อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 93.4 ระบุว่า ยังอยากเห็นคนไทยรู้รักสามัคคี บ้านเมืองสงบสุขโดยเร็ว ขณะที่ร้อยละ 6.6 ระบุว่า ไม่อยากเห็น ไม่ต้องการ นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 93.2 สนับสนุนให้ทำประชาธิปไตยอย่างสงบสุข โดยแก้ปัฐหาความขัดแย้งกันในสภาฯ มากกว่าที่จะพาคนลงถนน ขณะที่ร้อยละ 6.8 ระบุว่า ไม่สนับสนุน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า คนเพียงหยิบมือเดียวจะไม่เป็นทุกข์ ไม่เดือดร้อนจากความแตกแยกรุนแรงบานปลายของคนในชาติแล้วจะไปทำร้ายตัวเองทำร้ายประเทศชาติของตัวเองไปเพื่ออะไร เพื่อใคร ทำไปทำไม จะมีประโยชน์อะไรถ้าได้ชัยชนะบนซากปรักหักพัง มีแต่แพ้กันทั้งนั้น ยกเว้นขบวนการที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นผู้ชนะ โดยคนไทยเพียงหยิบมือและต่างชาติที่อ้างความชอบธรรม จะเข้ามาจัดระเบียบประเทศหลังการสูญเสีย และเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ชาติและของประชาชนไป ถ้ามองไปที่ "ฮ่องกงโมเดล" ของการชุมนุมม็อบคนรุ่นใหม่ที่กำลังมีขบวนการเบื้องหลังออกแบบมาใช้กับประเทศไทย โดยเอาจุดเปราะบางเช่น เรื่อง กฎหมายสูงสุดที่คนรุ่นใหม่ถูกปลุกปั่นให้ต่อต้านกฎหมายที่ต้องการให้แก้ไข จะทำให้เห็นภาพของการทำลายระบบเศรษฐกิจและความเจริญเติบโตที่บรรพบุรุษของคนบนเกาะฮ่องกง เคยสร้างกันมาด้วยความเสียสละโดยเสียเลือดเนื้อ แต่มาพังพินาศไปจากการถูกบิดเบือน ปลุกปั่นกระแสแตกแยกของประชาชนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แล้วคนไทยกำลังจะเดินตามการยุยงปลุกปั่นกระแสแตกแยกของคนในชาติ ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของคนเฉพาะกลุ่มเพียงหยิบมือเดียวที่จะไม่เป็นทุกข์ ไม่เดือดร้อน จากวิกฤตชาติและวิกฤตของประชาชน หลังม็อบรุนแรงบานปลายและสูญเสีย ที่คนไทยทุกคนควรตั้งคำถามว่าสุ่มหัวร่วมมือกัน ทำร้ายประเทศไทยของฉัน ทำไม