สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ออกแถลงการณ์ประณามการคุกคามประชาชนที่ชุมนุมอย่างสันติ เสนอ 4 ข้อเรียกร้อง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ประณามการคุกคามประชาชนที่ชุมนุมอย่างสันติโดยรัฐผ่านการใช้กฎหมายและความรุนแรง
สืบเนื่องจากตลอดการชุมนุมอย่างสันติของประชาชนตามกติกาสากล เจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้วิธีการต่าง ๆ ที่มีความรุนแรงสูงขึ้นในการขัดขวางการชุมนุม ล่าสุดมีการสลายการชุมนุมโดยใช้รถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง รวมถึงก่อนหน้านี้ก็มีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพและคุกคามผู้ชุมนุม ทั้งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 การจับกุมและตั้งข้อหานักกิจกรรมทางการเมืองหลายท่านที่ใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 15 ตุลาคม 2563 ไม่ว่าจะเป็นในข้อหายุยงปลุกปั่น และกีดขวางทางสาธารณะ เป็นต้น อีกทั้งยังคัดค้านการประกันตัวด้วย
โดยเฉพาะในวันที่ 15 ต.ค. 2563 ศาลอาญาได้อนุมัติ ให้ออกหมายจับ “นายเอกชัย หงส์กังวาน” นักกิจกรรมทางการเมือง และ “นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง” นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ในข้อหาประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีตามมาตรา 110 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่มีอัตราโทษสูงถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 16 – 20 ปี อันเนื่องมาจากการเคลื่อนขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัทศมีโชติ ผ่านบริเวณการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า แม้ว่านายเอกชัยและนายบุญเกื้อหนุนไม่ได้มีพฤติการณ์ที่ขัดขวางขบวนเสด็จตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวหา และรัฐสามารถจัดขบวนเสด็จไปเส้นทางอื่นที่สั้นกว่าและสามารถเดินทางตามปกติได้
การใช้กฎหมายอาญาที่มีอัตราโทษสูงและกฎหมายอื่นในฐานะเครื่องมือทางการเมืองโดยรัฐ เป็นการใช้กฎหมายที่ผิดวัตถุประสงค์และผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะในรัฐประชาธิปไตยสมัยใหม่ที่จำเป็นต้องยึดหลักการปกครองของกฎหมาย (Rule of Law) เป็นสำคัญ อีกทั้งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในสถานการณ์ที่มิได้มีความรุนแรงและความเร่งด่วนในการจัดการ เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มุ่งจำกัดอำนาจรัฐด้วย
อีกทั้ง ในการชุมนุมล่าสุดวันที่ 16 ต.ค. ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมโดยใช้วิธีที่รุนแรง อาทิ การใช้รถฉีดน้ำทั้งน้ำปกติและน้ำที่ผสมสีหรือสารเคมี แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง แม้การชุมนุมดำเนินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ การกระทำเช่นนี้ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่มาชุมนุม และเป็นความพยายามบ่อนทำลายสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมืองอย่างรุนแรง
จากสถานการณ์ที่ไม่เป็นปกติเช่นนี้ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง ขอประณามการกระทำจากรัฐที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม และมีข้อเรียกร้อง ดังนี้
1. ขอให้รัฐหยุดหยุดการกระทำใด ๆ ที่เป็นการคุกคามหรือบ่อนทำลายสิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุมที่มาแสดงออกอย่างสันติ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง โดยการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมตามหลักการสากล ไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยเด็ดขา และไม่สนับสนุนการกระทำอันใดที่จะบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างเด็ดขาด
2. ขอให้รัฐหยุดใช้กฎหมายคุกคามประชาชน โดยเฉพาะในมาตรา 110 ขอให้ดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนทางกฎหมาย ปราศจากใช้อำนาจนอกเหนือหน้าที่โดยมิชอบ หากผู้ต้องหาไม่มีความผิดจริงดังที่ถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการยกเลิกหมายจับและปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยเร็วที่สุด
3. ขอให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยทันที
4. ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเร็วที่สุด เพื่อความสงบเรียบร้อยและสร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้สำเร็จ
สุดท้ายนี้ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ตลอดจนสนับสนุนการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ตามสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ขอให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้างต้น เพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย อันยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ