อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยไทยผลิตถุงยางอนามัยได้มาตรฐาน 100% ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก 4,894 ล้านบาท ส่วนถุงมือยางส่งออกเป็นอันดับ 2 มูลค่า 36,465 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการส่งออกถุงยางอนามัยเป็นอันดับ 1 ของโลก เนื่องจากต่างประเทศยอมรับคุณภาพมาตรฐานของถุงยางที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การทดสอบคุณภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนให้หน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการใช้ยางพารา สำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราในประเทศให้มากยิ่งขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาการให้บริการทดสอบคุณภาพเครื่องมือแพทย์ที่ทำจากยางพารา เช่น ถุงยางอนามัย ถุงมือสำหรับการตรวจโรค และถุงมือสำหรับการศัลยกรรม ให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระหว่างปี พ.ศ.2557-2559 ได้รับตัวอย่างถุงยางอนามัยและถุงมือแพทย์ รวมทั้งสิ้น 980 ตัวอย่าง มาทำการทดสอบคุณภาพตามวิธีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือมาตรฐานระหว่างประเทศ พบว่า ถุงยางอนามัยมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 100 ส่วนถุงมือสำหรับการตรวจโรค พบตัวอย่างไม่เข้ามาตรฐาน ร้อยละ 9 และถุงมือสำหรับการศัลยกรรม พบตัวอย่างไม่เข้ามาตรฐานร้อยละ 7 ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหา ความทนต่อแรงดึงและความยืดตัวของเนื้อยาง รองลงมาคือ การรั่วซึมน้ำ ความยาว ความหนา และความกว้าง
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า จากการตรวจทดสอบคุณภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถไปดำเนินการขอใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการผลิต เพื่อจำหน่ายในประเทศหรือส่งออกกับ อย. ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการได้รับการรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 : 2005 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว สามารถดำเนินการขอขึ้นบัญชีเป็นหน่วยตรวจสอบกับ อย. และจะสามารถใช้ผลการตรวจสอบคุณภาพของห้องปฏิบัติการผู้ประกอบการเอง ในการยื่นขอใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการผลิต เพื่อจำหน่ายหรือส่งออกได้เช่นกัน
“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตถุงยางอนามัยในประเทศไทยทั้งสิ้น 7 ราย การที่มีคุณภาพมาตรฐานถึงร้อยละ 100 ทำให้ในปี พ.ศ.2559 ประเทศไทยครองอันดับ 1ของโลกในการผลิตและส่งออกถุงยางอนามัย มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกประมาณร้อยละ 22 หรือประมาณ 4,894 ล้านบาท ตลาดส่งออกถุงยางอนามัยรายใหญ่ของไทย คือ จีน รองลงมา คือ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ฮ่องกง และมาเลเซีย” นพ.สุขุม กล่าว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับถุงมือยาง พบว่า มีการผลิตถุงมือยาง 3 ประเภท คือ ถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์ ถุงมือยางที่ใช้ในงานบ้าน และถุงมือยางที่ใช้ในอุตสาหกรรม โดยมีการผลิตถุงมือดังกล่าวทั้งหมดประมาณ 15,110 ล้านคู่ โดยร้อยละ 98 ผลิตเพื่อการส่งออก และใช้ในประเทศเพียงร้อยละ 2 โดยประเภทถุงมือยาง ที่ประเทศไทยมีการผลิตและส่งออกส่วนใหญ่เป็นถุงมือที่ใช้ทางการแพทย์ (ร้อยละ 90 ของถุงมือยางทั้งหมด) โดยส่งออก เป็นอันดับ 2 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 36,465 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น