“ธนกร”โต้ฝ่ายค้าน ย้ำรัฐบาลจำเป็นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่ได้บ้าอำนาจ ยัน ”บิ๊กตู่”มองนักศึกษาเหมือนลูกหลาน ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านออกแถลงการณ์กล่าวหารัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ชอบธรรม ไม่เป็นตามข้อเท็จจริง และควรใช้วิธีสันติว่า อยากจะบอกพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยสันติว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเข้าไปดูแลสถานการณ์เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่ได้บ้าอำนาจเหมือนรัฐบาลในอดีต เพราะม็อบคณะราษฏรสร้างสิ่งที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงให้กับประเทศ สร้างความเศร้าใจ ย่ำยีหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยการจาบจ้วงสถาบัน กล้าถึงขนาดขัดขวางขบวนเสด็จ ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจากหลายกลุ่มประกาศระดมพลออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและศรัทธา รัฐบาลไม่อยากให้เกิดม็อบชนม็อบ เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน จึงจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายธนกร กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จะต้องเข้าใจและเห็นใจในสิ่งที่รัฐบาลทำ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พยายามประคับประคอง อลุ่มอล่วยกับนักศึกษามาโดยตลอด มองนักศึกษาเหมือนลูกหลาน ไม่เคยมองเป็นคู่ขัดแย้ง เพราะฉนั้นม็อบคณะราษฏรควรเคลื่อนไหวตามกรอบกฏหมาย ตนเชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะเจรจาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน เพราะสถาบันดีอยู่แล้ว เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของประเทศชาติและประชาชน ส่วนข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำนั้นไม่ได้เป็นอำนาจของรัฐบาล แต่เป็นอำนาจของกระบวนการยุติธรรมของศาลจึงอยากให้ทุกฝ่ายใช้สติช่วยกันประคับประคองให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้ อย่านำประเทศไปสู่ความขัดแย้งอีกเลย ตนเสียดายมาก วันนี้ต่างประเทศยังต้องสู้กับโควิด-19 แต่ประเทศไทยกลับมาขัดแย้งกันเอง เสียดายโอกาสที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายทบทวนแล้วช่วยกันหาทางออกร่วมกันให้กับประเทศ