นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น จะออกเดินทางเยือนเวียดนามและอินโดนีเซีย เป็นเวลา 4 วัน เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง กับทั้งสองประเทศ ซึ่งจะเป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกของซูงะ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น แทนนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่ประกาศลาออกก่อนครบวาระ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่กำลังประสานงาน เพื่อจัดหมายกำหนดการพบปะ ระหว่างซูงะกับนายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม และประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเผยว่า ในระหว่างการเยือนเวียดนาม นายซูงะจะเป็นสักขีพยาน การลงนามยกระดับความร่วมมือทางทหาร ซึ่งจะรวมถึงการส่งออกอาวุธ จากญี่ปุ่นให้เวียดนาม รวมทั้งข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยกเลิกการปิดกั้นตัวเอง จากการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2557 โดยมีเป้าหมายยกระดับศักยภาพทางทหาร และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จนถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีข้อตกลงส่งออกอาวุธกับฟิลิปปินส์ เพียงประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อตกลงที่ลงนามเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทางการมะนิลาตกลงสั่งซื้อระบบสัญญาณเตือนภัย และเรดาร์ทางทหาร จากบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็กทริก ของญี่ปุ่น
รายงานของสำนักข่าว นิกเคอิ เอเชีย ของญี่ปุ่น ระบุว่า ไทยเป็นอีกหนึ่งในประเทศของภูมิภาค ที่ญี่ปุ่นกำลังพยายามเจรจา เพื่อบรรลุข้อตกลงด้านอาวุธ.