"พิธา"ยันร่วมสังเกตการณ์ม็อบแน่นอน

2020-10-14 12:00:53

"พิธา"ยันร่วมสังเกตการณ์ม็อบแน่นอน

Advertisement

"พิธา"ยันร่วมสังเกตการณ์ม็อบแน่นอน ฝาก จนท.ดูแลผู้ชุมผู้ชุมนุมอีกกลุ่ม ไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย

เมื่อวันที่ 14 ต.ค.  ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมวางพวงมาลารำลึก 47 ปี เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า วันนี้จะมาร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมใหญ่อย่างแน่นอน เพราะจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่มีการสลายการชุมนุมก็มีคำถามมากมายทั้ง ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรมและสิทธิของประชาชน อีกทั้งในฐานะผู้แทนประชาชนก็ได้ร่วมกับ ส.ส. พรรคก้าวไกลอีก 2 คน คือ น.ส.เบญจาและนายธัญวารินทร์ ไปร่วมกันประกันตัว 21 แกนนำ เมื่อพบกันทีแรกประชาชนที่ถูกจับยังไม่มีทนายความ และในขั้นแรกทางพรรคก้าวไกลได้มีการจัดหาแพทย์ อาหารและยารักษาโรคให้กับผู้ที่ถูกจับ เนื่องจากบางคนมีโรคประจำตัว ทั้งคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคหอบหืด เมื่อได้มีการทานข้าวทานยากันแล้ว และเปลี่ยนชุด หลังจากนั้นก็ได้มีการยื่นประกันตัวในเวลาตี 4 ครึ่ง ซึ่งวงเงินประกันตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 3 หมื่นบาท แต่ในขณะนั้นเข้าใจว่าทางผู้กำกับการตำรวจได้หลับไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้คำมั่นว่าหากผู้กำกับอนุญาตก็จะสามารถให้ประกันตัวได้เลยในชั้นพนักงานสอบสวน แต่หากในชั้นพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว ก็พร้อมไปยื่นประกันตัวในชั้นศาลต่อไป แต่ก็มีด้วยกันหลายศาล เนื่องจากความหนักเบาของคดีของผู้ที่ถูกจับแต่ละท่าน และอายุของผู้ที่ถูกจับ โดยในครั้งนี้มีประชาชนที่ถูกจับอายุ 17 ปีรวมอยู่ด้วย ถ้าหากต้องขึ้นศาลก็ต้องไปขึ้นที่ศาลเยาวชน

นายพิธา กล่าวต่อว่า อยากให้ทุกคนมีสติและร่วมลึกถึงเหตุการณ์ 14 ต.ค. วันนี้เมื่อ 47 ปีก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำผึ้งหยดเดียว ทั้งนี้ตลอด 4-5 เดือนที่ผ่านมา นิสิต นักศึกษาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าถ้ามีโอกาสหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ พวกเขาก็จะหยุดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยในอดีตไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2516 หรือ 2519 ก็มาจากการยั่วยุ มาจากการคุกคามของรัฐทุกครั้ง ความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นถ้าผู้มีอำนาจมีสติ ผู้มีอำนาจยังมีโอกาส จำเป็นต้องถอย ทำให้ประเทศไม่ถึงทางตันและเรียนรู้บทเรียนอะไรบางอย่างในอดีตบ้าง ก็จะเป็นเรื่องดี

“สิ่งที่เป็นกังวลคือนิสิต นักศึกษาประกาศว่าจะมีการชุมนุมและประชาชนอีกส่วนหนึ่งก็มาชุมนุม ซึ่งก็สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่หวังว่าจะชุมนุมกันอย่างสันติ โดยเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายคงไม่มีใครอยากให้คนไทยด้วยกันล้มตาย และต้องฝากความหวังไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีการพูดคุยกับหลายท่านที่อยู่ในพื้นที่ และช่วยกันบริหารสถานที่และสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย และหวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี“ นายพิธา กล่าว