บุกรวบ! คาผ้าเหลือง แอดมินกลุ่มลามก หลอกแฟนสาวจัดสวิงกิ้งหารายได้จากการขายคลิป

2020-10-13 19:30:39

บุกรวบ! คาผ้าเหลือง แอดมินกลุ่มลามก หลอกแฟนสาวจัดสวิงกิ้งหารายได้จากการขายคลิป

Advertisement

พ่อใจสลายเห็นคลิปอนาจารลูกสาว ว่อนโซเซียล พาลูกสาวเข้าขอความช่วยเหลือพัฒนาสังคมจังหวัดพิจิตร-พิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนออกหมายจับกุมหนุ่มเมืองพิจิตร ที่หลอกแฟนสาวให้มีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายรูปและ คลิป นำไปแบล็คเมย์ ให้ร่วมเพศแบบสวิงกิ้ง ในกลุ่มโซเซียล เพื่อหารายได้ มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วหลาย ในพื้นที่ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ก่อนถูกจับได้แอบไปบวชเป็นพระในวัดจังหวัดพิจิตรได้เพียง 3 วัน

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.พยู ธนะศรีสืบวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และนางเอื้องดอย กีรติบริบูรณ์ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแอดมินจัดสวิงกิ้งหารายได้จากการขายคลิปในโลกออนไลน์

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีพ่อของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว จ.พิจิตร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ว่าบุตรสาวได้ถูกนายณัฐภัทร หรือเอ็ม อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนียว ทำร้ายร่างกาย และพา น.ส.เอ ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะกลุ่ม (สวิงกิ้ง) โดยนายเอ็มได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวขณะที่ น.ส.เอ ถูกกระทำชำเราไว้ จากนั้นได้นำภาพและภาพเคลื่อนไหวไปเผยแพร่และโฆษณาในแอพพลิเคชั่นทวิตตอร์ และกลุ่มไลน์ เพื่อหารายได้ โดยเชิญชวนให้บุคคลที่สนใจ (ลูกค้า) จ่ายเงินจำนวน 600 บาท เพื่อเป็นค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม และสามารถเข้าไปชมภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวที่นายเอ็มได้บันทึกขณะที่ น.ส.เอ ถูกกระทำชำเราไว้ อีกทั้ง นายเอ็มได้พา น.ส.เอ ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งต่างท้องที่ ทั้ง จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ทำให้ น ส.เอได้รับความเสียหาย




ทั้งนี้ เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและเป็นการนำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ทางศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีอำนาจหน้าที่สืบสวน ปราบปราม จับกุม ผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต และชุดปฏิบัติงานศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ภาค 6 ชุดปฏิบัติการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนขออนุมัติ หมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ.๒๔๘/๒๕๖๓ ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ในฐานความผิด "เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อลวงไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม" และเป็นความผิดฐาน "ผลิตมีไว้หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร เพื่อการค้า และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้" จึงได้ทำการสืบสวนจับกุม นายเอ็ม ผู้ต้องหา ได้ที่ จ.พิจิตร และขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพิจิตร ที่ ค.ดด๗/๕๖๓ ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำความผิด ตาม พระราชบัญญัติค้ามนุษย์

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้เปิดเผยว่าจากการตรวจค้น ได้ทำการตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องเพื่อส่งตรวจพิสูจน์การกระทำความผิดต่อไป จากพฤติการณ์การกะทำผิดของนายเอ็ม (นามสมมุติ ) ผู้ต้องหา จะเห็นได้ว่านอกจากความผิดที่ปรากฏตามหมายจับ แล้ว จะเห็นได้ว่ามีการกระทำที่เป็นธุระจัดหา จัดให้มีการค้าประเวณีจากการสวิงกิ้ง และเป็นผู้ถ่ายภาพผลิตสื่อลามกด้วยตนเอง โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์รายได้ จากการนำภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ลกลุ่มไลน์ ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นฐานความผิด "ค้ามนุษย์"



พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้บอกต่อว่าพฤติกรรมของ นายเอ็ม ผู้ต้องหานั้น ได้ใช้วิธีการคบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหายก่อน โดยคบกันได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นได้ตั้งกล้องแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย จากนั้นได้นำคลิปตัวนั้นมาข่มขู่ บังคับ ขืนใจ ให้ตัวผู้เสียหายต้องยอมไปมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง ใน 3 จังหวัด คือ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก รวมทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกด้วย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพยานแน่นหนา สามารถดำเนินคดีเอาผิดทางกฎหมายได้

นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งแรก เนื่องพ่อของ น.ส.เอ นั้น ได้เห็นภาพลูกสาว ที่กลุ่มไลน์ของเพื่อน นำมาให้ดู ว่าเป็นลูกสาวตัวเองหรือไม่ ผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นคลิปของลูกสาว ถึงกับตกใจและน้ำตาไหลพราก ตอนแรกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้พาลูกสาว มาขอความเป็นธรรมและร้องเรียนกับ พมจ.พิจิตร หลังจากนั้นทาง พมจ.พิจิตร ได้ประสานกับชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต หรือ TICAC ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อดำเนินคดีกับนายเอ็ม และล่าสุดทราบว่านายเอ็ม ได้นำแฟนสาว มาจัดฉากสวิ้งกิ้ง ในโรงแรงแห่งหนึ่งในที่พื้นที่ จ.พิษณุโลก จึงเริ่มหาข้อมูลและหลักฐานในการออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเชื่อว่านายเอ็มฯ ก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่หลายจังหวัด ทั้ง จ.นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก มีเหยื่อที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความอีกหลายราย